อื่นๆ
6 วิธีดูแล ผิวมันขาดน้ำ ในช่วงหน้าหนาว
ก.ย.
สารบัญ
ผิวมันขาดน้ำ เป็นอย่างไร ในช่วงหน้าหนาว
เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมหน้าหนาวแล้วผิวของเรายังมีคราบความมันส่วนเกินอยู่ บางคนใบหน้ามีความมันมากจนเป็นสิวเม็ดใหญ่ขึ้นหน้า และในบางครั้งผิวของเราก็จะมีลักษณะมันแบบแห้งกร้านหรือที่เรียกกันว่า “ผิวมันขาดน้ำ” ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูหนาว เรามาดูกันว่า ผิวมันขาดน้ำ เป็นอย่างไร ในช่วงหน้าหนาว รวมถึงสาเหตุและแนวทางวิธีการรักษา จากบทความนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
สาเหตุ
ช่วงหน้าหนาว ผิวของเรามักจะขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้านบนใบหน้า และอาจจะมีอาการผิวลอกเป็นขุย ผิวอักเสบ แสบ คัน ร่วมด้วยในบางครั้ง ปัญหาผิวเหล่านี้เกิดจากสภาพอากาศแห้ง หนาวเย็น และมีลมพัดแรง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นออกไป ซึ่งหากเป็นคนผิวมันก็จะมีอาการที่เรียกว่า ผิวมันขาดน้ำเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่มาจากความแห้งกร้านที่เกิดบนผิวหน้าของคนที่มีสภาพผิวมัน
โดยอาการของผิวมันขาดน้ำจะมีลักษณะตามชื่อ คือ บนผิวจะมีน้ำมันส่วนเกินอยู่มาก แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีความแห้งตึงและอาจมีผิวลอกร่วมอยู่ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดผิวอักเสบ ผิวลอก ผิวอุดตัน และเป็นสิวได้
ผิวมันขาดน้ำเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น
- การที่ผิวมันมีการสูญเสียความชุ่มชื้นมากเกินไปจนทำให้ผิวแห้งกร้าน
- ตามธรรมชาติของผิวมัน บนผิวจะต้องมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ หากผิวมันขาดความชุ่มชื้น ต่อมไขมันก็จะทำงานหนักมากขึ้นเพื่อเร่งสร้างน้ำมันออกมาที่ผิวเพิ่มสำหรับการชดเชยความชุ่มชื้นบนผิวที่ขาดหายไป
แต่ถึงต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมามากสักเท่าไหร่ ผิวก็ยังคงแห้งกร้านอยู่ดี เนื่องจากในหน้าหนาวมีสภาพอากาศแห้ง จึงทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลง จึงเกิดผิวที่มีความแห้งกร้านแต่เคลือบไปด้วยน้ำมันขึ้นนั่นเอง
วิธีการดูแลรักษา
1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้
หลีกเลี่ยงการใช้โฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า และเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่ดี ไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อย่าง แอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม
2. บำรุงผิวด้วยครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวสูง
อย่าง เซรั่มวิตามินซี เอสเซนส์ และครีมบำรุงหน้าเป็นประจำ เพื่อเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ลดการทำงานของต่อมไขมัน และฟื้นบำรุงโครงสร้างเซลล์ผิวให้มีความแข็งแรงพร้อมรับสภาพอากาศในช่วงหน้าหนาว
3. มาสก์ผิวหน้าเป็นประจำสม่ำเสมอ
อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่สม่ำเสมอ ควบคุมความมัน ลดการระคายเคืองผิว สร้างความผ่อนคลายให้กับผิว และลดปัญหาผิวมันแต่ขาดน้ำได้
4. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเป็นประจำทุกวัน
เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องจากแสงแดดและรังสียูวีเอ รังสียูวีบี และรังสีอินฟาเรด หรือหลีกเลี่ยงการออกแดดที่มากเกินไปโดยตรง
5. ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้วต่อวัน
เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและมีโครงสร้างเซลล์ผิวที่แข็งแรง เต่งตึง และมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
6. ทาอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
เพื่อให้ผิวแข็งแรง สวยใสได้จากภายในสู่ภายนอก
นอกจากนี้การดูแลรักษาผิวขาดน้ำอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดผิวมันขาดน้ำได้ เช่น
- การนอนดึก หากใครที่นอนดึกเป็นประจำมักจะพบว่าในตอนเช้าผิวหน้าของเราจะมีความมันมากกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงกลางคืนต่อมไขมันจะทำงานมากกว่าในช่วงกลางวัน หากเรานอนดึกและร่างกายยังคงต้องทำงาน ไม่ได้รับการพักผ่อน ต่อมไขมันก็จะทำงานมากขึ้นและเกิดคราบความมันมากขึ้นได้นั่นเอง ซึ่งหากรวมกับสภาพอากาศที่แห้งและเย็นด้วยแล้ว อาจจะทำให้เกิดผิวมันขาดน้ำได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า แกะสิว หรือเกาผิวหนังที่หลุดลอกในช่วงหน้าหนาวบ่อย ๆ จะทำให้เกิดผิวแห้งขาดน้ำได้ แถมยังอาจเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้ด้วย
เนื่องจากการแกะเกาผิวจะทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น และทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้นเพื่อเร่งผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวสำหรับปกป้องผิวที่เกิดอันตรายจากการแกะเกาผิว จึงทำให้ความมันบนผิวหน้ามีมากขึ้น บวกกับอากาศที่เย็นและแห้งด้วยก็จะทำให้เกิดผิวแห้งขาดน้ำได้
นี่ก็เป็นสาเหตุและวิธีการดูแลรักษาผิวมันขาดน้ำค่ะ ใครที่มีสภาพผิวมันอยู่แล้วและไม่อยากมีปัญหาผิวมันขาดน้ำในช่วงหน้าหนาวนี้ ก็ต้องดูแลรักษาผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอและมีโครงสร้างเซลล์ผิวที่แข็งแรงกันด้วยนะคะ และที่สำคัญต้องรักษาสุขภาพกายร่วมด้วย หาผ้าห่มอุ่น ๆ หรือเสื้อกันหนาวอุ่น ๆ สวมใส่ในวันที่หนาวกันด้วยนะคะ