บำรุงผิวหน้า ต้อนรับ ลมหนาว ป้องกันผิวแห้งเสีย

ต้อนรับลมหนาวด้วยการบำรุงผิวหน้า ป้องกันผิวแห้งเสีย

ลมเย็น ๆ เริ่มพัดผ่านกันบ้างแล้ว หลายคนก็คงเริ่มมีปัญหาผิวแห้งมากวนใจ โดยเฉพาะผู้มีผิวแห้งที่พอถึงหน้าหนาวทีไรก็มักจะมีปัญหาผิวแห้ง ผิวลอก ผิวแดงคันมาให้ต้องแก้อยู่ตลอดฤดูหนาว แต่สำหรับหนาวนี้ คลายความกังวลใจไปได้เลยค่ะ เพราะแอดมีวิธีการดูแลและบำรุงผิวหน้าในช่วงหน้าหนาวมาฝากกัน รับรองว่าผิวสวยฉ่ำท้าลมหนาวแน่นอนค่ะ

ในช่วงหน้าหนาวมักจะมีสภาพอากาศที่แห้งและมีลมแรงในบางครั้ง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น อีกทั้งยังอาจทำให้ผิวหนังลอกหลุดเป็นขุย แดง คัน และอักเสบได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแห้งจะมีปัญหาผิวเหล่านี้เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่น ดังนั้นช่วงฤดูหนาวจึงเป็นช่วงที่ผิวแห้งต้องดูแลผิวให้มากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ผิวเสียนั่นเองค่ะ ซึ่งการดูแลและบำรุงผิวในช่วงหน้าหนาวก็สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่

1. ทาเซรั่มหรือเอสเซนส์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

เซรั่ม คือ สารบำรุงผิวเข้มข้น ซึ่งมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพสูงสุด ในช่วงหน้าหนาว ผิวมักจะขาดความชุ่มชื้นและขาดน้ำ ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและโปรตีนใต้ชั้นผิว จึงช่วยบำรุงผิวกระชับ เต่งตึง ดูมีน้ำ และชุ่มชื้นได้ แม้อากาศจะหนาวหรือมีลมพัดแรงก็ตาม

เอสเซนส์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามของ น้ำตบ เป็นไอเทมสุดฮิตสำหรับหน้าหนาวหรือคนที่ต้องอยู่ในประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวยาวนาน เอสเซนส์เป็นสารบำรุงผิวที่เด่นในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จึงลดอาการผิวแห้ง ผิวลอก และลดการอักเสบของผิว อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนต่อผิวสูงและมีอนุภาคขนาดที่เล็กมาก จึงทำให้เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่าย ใครที่เป็นคนผิวแห้งและแพ้ง่ายด้วยก็แนะนำเป็นเอสเซส์เลยค่ะ   

2. ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวให้มากและยาวนานขึ้น

ไม่ว่าเราจะทาครีมบำรุง เซรั่ม หรือเอสเซนส์ลงบนผิวเพื่อฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงรับลมหนาวแล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวควรทามอส์เจอไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสารบำรุงต่าง ๆ ให้เป็นไปได้ดีมากขึ้นด้วย โดยมอยส์เจอไรเซอร์จะเคลือบอยู่บนผิว คอยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิว ไม่ให้สูญเสียไปจากการที่อากาศแห้งหรือลมพัดแรงในช่วงหน้านาว ดังนั้นเราจึงไม่ควรมองข้ามการทามอยส์เจอไรเซอร์หลังลงครีมบำรุงหน้าต่าง ๆ เสร็จแล้วนะคะ

 

 

3. อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งเพื่อลดการทำร้ายผิวจากแสงแดด

แม้ในช่วงหน้าหนาวจะมีอากาศเย็นสบายหรือหนาวจนต้องใส่เสื้อกันหนาว แต่แสงแดดที่ส่องลงมายังพื้นดินก็ยังคงมีรังสียูวีแฝงตัวอยู่ รังสียูวีเอและยูวีบีทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้งเสีย เกิดความหมองคล้ำ และอาจเกิดฝ้ากระได้ ดังนั้นก่อนออกจากบ้านทุกครั้งควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวไม่ให้เกิดอันตรายจากรังสียูวีในแสงแดดด้วย หรือ ถ้าสาว ๆ ชอบแต่งหน้า ลงเมคอัพก่อนออกจากบ้าน ก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดก่อนแล้วค่อยแต่งหน้า แนะนำให้ใช้รองพื้นที่มีสารกันแดดผสมด้วย เพื่อการปกป้องผิวที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ

4. ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อไม่ให้โครงสร้างผิวขาดน้ำ

โครงสร้างเซลล์ของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 60% ทำให้ร่างกายของเราต้องการน้ำเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งถ้าหากเซลล์ผิวของเราขาดน้ำบ่อย ๆ ก็จะทำให้ผิวแห้ง ไม่สดใส และอาจเกิดริ้วรอยได้ และถ้ายิ่งเป็นช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศแห้งอยู่แล้วด้วยล่ะก็ ผิวก็อาจจะยิ่งหมองคล้ำ อักเสบ หรือผิวลอกได้ ดังนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ โดยร่างกายของเราจำเป็นที่จะต้องได้รับน้ำอย่างน้อยประมาณ 8 แก้วต่อวัน จึงจะทำให้โครงสร้างเซลล์ผิวเต่งตึง ผิวไม่แห้งกร้าน และมีสุขภาพผิวดี 

 

 

5. ห้ามแกะ เกา หรือ ขูด ผิวในบริเวณที่ลอกหรือมีการอักเสบอยู่   

ในหน้าหนาว ผู้ที่มีสภาพผิวที่แห้งถึงแห้งมาก อาจมีอาการผิวลอก แดงคัน หรืออักเสบได้ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้แนะนำว่า ห้ามแกะ เกา หรือ ขูด ผิวหนังเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบมากขึ้น ผิวหนังหลุดลอกมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดแผล รอยดำ รอยแดง หรือเกิดริ้วรอยขึ้นได้ การแก้ไขปัญหาผิวแห้ง หลุดลอก และอักเสบที่ดี นั่นก็คือ การลงสารบำรุงที่อ่อนโยนต่อผิว อย่าง เซรั่ม เอสเซนส์ และมอส์เจอไรเซอร์ เพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวให้กลับมาแข็งแรงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงการดูแลผิวอย่างเช่น การดื่มน้ำมาก ๆ ทานอาหารบำรุงผิวที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ เพียงเท่านี้อาการผิวลอกและอักเสบก็จะหายไปจากใบหน้าเราได้แล้วล่ะค่ะ