สารบัญ
ส่วนผสมใน Cleansing ต่างจาก Cleanser อย่างไร?
Cleansing หรือ คลีนซิ่ง เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมเราจึงต้องใช้คลีนซิ่งในการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนที่จะใช้คลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้า ที่ดี่ที่สุดเพื่อทำความสะอาดผิว ให้ไม่เกิดการอุดตันของผิวและป้องกันการเกิดสิว วันนี้อควาพลัสจะพามาดูว่า เพื่อผลลัพธ์ผิวใสไร้สิว ทำไมเราถึงต้องใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวก่อน และคลีนซิ่งมีส่วนผสมอะไร ทำไมถึงจำเป็นต้องใช้ก่อนล้างหน้าจริง เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับทุกคนกันค่ะ
อะไรบ้างที่อยู่บนผิวหน้าของเรา?
ในหนึ่งวันผิวหน้าของเราต้องเจอกับมลภาวะและสิ่งสกปรกมากมาย หรือบางครั้งผิวของเราอาจต้องเจอสิ่งสกปรกด้วยการกระทำของเราเอง ทำให้ผิวหน้าของเรามีสิ่งเหล่านั้นติดอยู่บนผิว รวมถึงสิ่งสกปรกที่เกิดจากกลไกของผิวหนังของเราเองด้วย ซึ่งถ้าเรามีปัญหาหน้ามันด้วยก็อาจสะสมกันเป็นจำนวนมากจนทำให้เกิดสิวอุดตันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวบอบบางเป็นสิวง่าย มาดูกันว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างมากที่ติดอยู่บนผิวหน้าของเรา เช่น
- เครื่องสำอาง
- ครีมกันแดด
- เขม่าควันรถ
- ฝุ่นละอองต่างๆ
- เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว
- คราบความมันส่วนเกิน
- คราบเหงื่อ
- เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว หรือ P. acne
สิ่งสกปรกเหล่านี้ บางครั้งอาจจะไม่สามารถถูกกำจัดออกให้หมดจดได้ด้วยคลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้า เนื่องจากสิ่งสกปรกเหล่านี้บางอย่างมีองค์ประกอบเป็นไขมัน สารประกอบประเภทโพลีเมอร์ และอาจมีสารกันน้ำผสมอยู่ จึงต้องใช้คลีนซิ่งที่ดีเป็นตัวช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไป
แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
หลายคนคงเกิดคำถามสงสัยขึ้นมาว่า ทั้งคลีนซิ่งและคลีนเซอร์ต่างก็มีสารทำความสะอาดผิวเป็นส่วนประกอบ แต่ทำไมไม่สามารถใช้คลีนเซอร์ล้างหน้าได้เลย ต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดคราบสกปรกให้ออกก่อนจึงจะใช้คลีนเซอร์ล้างหน้า เราไปดูส่วนผสมหลักของทั้งคลีนซิ่งที่ต่างจากคลีนเซอร์กันเลย
ส่วนผสมหลักของคลีนซิ่งที่ต่างจากผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
โดยปกติแล้ว ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ทำความสะอาดผิว หรือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเองไม่ว่าจะเป็นเอสเซนส์บำรุงผิวหน้าก็ตาม มักจะไม่สามารถรวบรวมสารทุกตัวที่ว่าดีที่มีอยู่บนโลกมาไว้ในขวดเดียวได้ จึงทำให้ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวของตัวเองขึ้นมา และถูกเรียกชื่อตามคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป คลีนซิ่งและคลีนเซอร์ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะมองว่า ทั้งสองตัวมีคุณสมบัติคล้ายๆ กันคือ ทำความสะอาดผิวหน้า แต่หากดูเจาะลึกถึงส่วนผสมและคุณสมบัติแล้ว คลีนซิ่งและคลีนเซอร์มีความแตกต่างกันอยู่ และในบางครั้งก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้ โดยส่วนผสมในคลีนซิ่งจะเน้นการลบคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกทั้งที่อยู่บนผิวหน้าและในรูขุมขนให้หลุดออกไป แต่คลีนเซอร์จะเน้นการกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวหน้ามากกว่า ทำให้คลีนซิ่งเป็นไอเทมที่จำเป็นมากสำหรับผู้ที่แต่งหน้าอยู่เป็นประจำหรือต้องทำงานในบริเวณที่มีการก่อสร้างและต้องเจอกับเขม่าควันเป็นประจำ
ส่วนผสมหลักในคลีนซิ่ง
ส่วนผสมหลักในคลีนซิ่งมีอยู่ 2 ตัว คือ MakeUp-Wash และ Coco-Wash ทั้งสองตัวจะถูกผสมใช้จริงในปริมาณ 3-5% ตามสูตร โดยทั้งสองตัวจะมีลักษณะและคุณสมบัติที่สนับสนุนในการกำจัดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขน จึงทำให้ถูกใช้เป็นส่วนผสมในคลีนซิ่งหลาย ๆ ตัว ซึ่งทั้งตัว MakeUp-Wash และ Coco-Wash มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
-
MakeUp-Wash
MakeUp-Wash หรือชื่อทางเคมี PEG-6 Caprylic/Capric Glyceride มีความอ่อนโยน ทำความสะอาดผิวได้ดี มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ โดย MakeUp-Wash เป็นสารทำความสะอาดผิวที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดเครื่องสำอางให้ออกจากผิวและรูขุมขนโดยเฉพาะ เนื่องจาก MakeUp-Wash เป็นสารประเภท Surfactant ชนิดไม่มีประจุ หรือ non-ionic ทำให้สามารถกระจายตัวเข้าสู่รูขุมขนได้อย่างล้ำลึก จึงช่วยดึงเอาเครื่องสำอางออกจากรูขุมขนได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง MakeUp-Wash ยังเป็นสารที่ถูกจัดให้อยู่ในประเภทของ Hydrophilic Emollient หรือ สารไขมันที่ดูดซึมได้และชอบน้ำ จึงทำให้ผิวนุ่มนวล อ่อนโยน ลึกถึงเซลล์ผิวเลยทีเดียว ทำให้ MakeUp-Wash หรือ PEG-6 Caprylic/Capric Glyceride เป็นสารทำความสะอาดผิวหรือสารชำระล้างที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยเลย
-
Coco-Wash
Coco-Wash หรือชื่อทางเคมี PEG-7 Clyceryl Cocoate เป็นสารทำความสะอาดผิวที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ของสารลดแรงตึงผิว
โดยหลักๆ แล้ว Coco-Wash จะถูกสกัดมาจากมะพร้าว จึงทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ซึ่ง Coco-Wash เป็นสารประกอบชนิดไม่มีประจุ หรือ non-ionic เช่นเดียวกัน จึงทำให้มีการกระจายตัวดี สามารถดึงเอาเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าและรูขุมขนได้ อีกทั้งยังให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว อ่อนโยน และไม่ระคายเคืองผิวอีกด้วย ทำให้ผู้ที่มีสภาพผิวบอบบาง แพ้ง่าย จึงสามารถใช้สารทำความสะอาดผิวหรือสารชำระล้างตัวนี้ได้นั่นเอง
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวไปของทั้ง MakeUp-Wash และ Coco-Wash จึงทำให้สารทั้งสองตัวนี้มักจะถูกใช้เป็นส่วนผสมในคลีนซิ่งอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถนำมาเช็ดที่ผิวแล้วสามารถซึมลึกเข้าสู่รูขุมขนเพื่อดึงเอาสิ่งสกปรกต่าง ๆ และคราบเครื่องสำอางออกมาได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงความอ่อนโยนและความชุ่มชื้นที่มีอยู่ในตัวของสารทำความสะอาดผิวหรือสารชำระล้างทั้งสองตัวนี้ จึงทำให้คลีนซิ่งส่วนใหญ่มักมีสารทั้งสองตัวนี้เป็นส่วนประกอบหลักนั่นเอง