ทรีทเม้นท์: เปลี่ยนผิวเสีย เป็นผิวสวยฉบับเร่งด่วน

ปัญหาผิวหน้าที่สร้างปัญหากวนใจในช่วงนี้สำหรับสาวๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของฝุ่นละออง PM 2.5  มลพิษทางอากาศมีอนุภาคขนาดเล็ก ไหนจะแสงแดดที่แผดเผาที่เข้ามากระทบกับผิวหนัง จนก่อให้เกิดปัญหา สิว ผิวมัน ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้ง และอีกหลายปัญหาผิวหน้าที่ตามมาอีกมากมาย ทำให้ผิวหน้าต้องได้รับการบำรุงด่วน การทำ ทรีทเม้นท์ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อมแซมดูแลผิวให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม

ทรีทเม้นท์ คืออะไร

ทรีทเม้นท์ (Treament) คือ กระบวนการบำรุงและดูแลผิวหน้าอย่างล้ำลึก เพื่อแก้ปัญหาและป้องกันปัญหาผิวหน้าต่างๆได้เป็นอย่างดี เพราะผิวของแต่ละช่วงวัยต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน เมื่อถึงอายุ 25 ปี ผิวพรรณเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผิวต้องการการดูแลที่มากกว่าที่เคย อย่างการผลัดเซลล์ผิวเริ่มช้าลง น้ำมันเริ่มผลิตน้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้านหมองคล้ำไม่สดใส การทำทรีทเม้นท์จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกการดูแลผิวที่เป็นที่นิยม เพราะการฟื้นบำรุงผิวด้วยทำทรีทเม้นท์ด้วยเครื่องที่ทันสมัย และ การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งการทำทรีทเม้นท์มีหลากหลายวิธี ทั้งการบำรุงทรีทเม้นท์ปรนนิบัติผิวด้วยตัวเองได้ที่บ้าน และ การทำทรีทเม้นท์ตามคลินิกและสถาบันเสริมความงามทั่วไป

 

 

ทรีทเม้นท์ดียังไง ช่วยอะไรบ้าง

การทำทรีทเม้นท์ช่วยบำรุงผิวหน้า ชะลอการเกิดปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวที่เป็นสิวจากสิ่งสกปรก ผิวหมองคล้ำจากแดด ผิวเหนื่อยล้า ผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น จนเกิดริ้วรอยต่าง การทรีทเม้นท์จึงช่วยฟื้นฟูแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้

• ทรีทเม้นท์ช่วยย้อนวัยผิว บำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก
• ทรีทเม้นท์ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
• ทรีทเม้นท์ช่วยลดเรือนริ้วรอยจุดด่างดำรอยเหี่ยวย่น และ ร่องลึก
• ทรีทเม้นท์ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพให้กลับมากระจ่างใสเหมือนเดิม
• ทรีทเม้นท์ช่วยทำให้รูขุมขนกระชับเล็กลง
• ทรีทเม้นท์ช่วยคืนความสดใสของผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด

 

 

 

 

ทรีทเม้นท์ มีวิธีไหนบ้าง

ทรีทเม้นท์หน้า มีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับผิวว่าต้องการดูแลแก้ปัญหาผิวในเรื่องใด ซึ่งตามคลินิก และ สถาบันเสริมความงามแต่ละที่ก็มีการดูแลที่แตกต่างกัน แต่หลักๆของการทำทรีทเม้นท์มีอยู่ 5 วิธีดังนี้

1.ทรีทเม้นท์ ด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Therapy)

การใช้เครื่องมืออุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นชั้นผิวหนังให้เกิดการสร้าง(Collagen) และอีลาสติน (Elastin) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในเรื่องของผิวที่เรียบเนียน กระชับ ลดริ้วรอยให้จางลง ปรับผิวที่คล้ำเสียจากแสงแดดให้ดูสว่างใสขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ขึ้นอยู่แล้วแต่บุคคล

2.ทรีทเม้นท์ ผลักวิตามินเข้าสู่ผิว (Vitamin Treatment)

เป็นการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหน้า ด้วยเครื่องมือโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) กระบวนการทำงานของตัวเครื่องจะปล่อยคลื่นความถี่สูง หลังจากทาครีมบำรุงและวิตามิน ตัวเครื่องจะช่วยผลักตัวยาและวิตามินต่างๆให้ซึมซาบลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น และ ทรีทเม้นท์วิธีนี้ยังช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดให้กับผิว

3.อัลตร้า ซาวด์ทรีทเม้นท์ยกกระชับผิวหน้า (Ultrasound Skin Tightening)

หลักการทำงานจะคล้ายๆกับทรีทเม้นท์ด้วยคลื่นวิทยุ แต่อัลตร้าซาวด์จะเป็นการปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปทำความร้อนในผิวในจุดที่สร้างคอลลาเจน เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้น เป็นการทำทรีทเม้นท์ที่ช่วยลดริ้วรอย ยกกระชับผิวหน้า

4.ครีมบำรุง ทรีทเม้นท์ใบหน้า (Nourishing Cream)

แท้จริงแล้วการทรีทเม้นท์ใบหน้า ก็เป็นหนึ่งในรูทีนของการบำรุงผิวหน้าประจำในทุกๆวันอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเลือกตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของผิวที่มีปัญหา และ ใช้ความสม่ำเสมอ และ บำรุงเป็นพิเศษ อย่างพวกครีมยกกระชับใบหน้า ครีมเติมน้ำให้ผิวที่ให้ความชุ่มชื้น เซรั่ม วิตามินซี ที่มีกรด AHA 

5.ทรีทเม้นท์ ผลัดเซลล์ผิวด้วยเลเซอร์ (Laser Resurfacing)

เครื่องเลเซอร์ทำหน้าที่ในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ลดเลือนรอยแผลเป็น และ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว 

 

 

เตรียมความพร้อมให้ผิวอย่างไร ก่อนทำ ทรีทเม้นท์ 

เพื่อการบำรุงที่ดีกว่า ทำทรีทเม้นท์ให้เห็นผล ควรเตรียมพร้อมผิวให้สะอาดเพื่อรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ เริ่มต้นจากการล้างหน้าให้สะอาดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน เปรียบเสมือนการทรีทเม้นท์แล้วล่ะ เรามีวิธีทำทรีทเม้นท์หน้าแบบง่ายๆทำเองได้ที่บ้าน 6 ขั้นตอนมาแนะนำกัน

• เช็ดทำความสะอาดผิว เช็ดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อเช็ดพวกเครื่องสำอาง ครีมกันแดด ครีมต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสดปรก
• สครับผลัดเซลล์ผิว ควรสครับผิวหน้าอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ที่อาจทำให้อุดตันรูขุนขน บ่อเกิดแห่งสิว และ ทำหน้าผิวหน้าหมองคล้ำ 
• อบไอน้ำ เตรียมน้ำร้อนเทชาม จากนั้นก้มหน้าเหนือชามแล้วน้ำผ้าขนหนูคลุมศรีษะ เพื่อให้ดักไอน้ำเข้าสู่ผิว หรือถ้าไม่สะดวกสามารถใช้ผ้านขนหนูชุบน้ำอุ่นๆบิดให้แห้งพอหมาดๆ และ ปิดคลุมใบหน้าเอาไว้สัก 5 นาที เพื่อเปิดรูขุมขน ขจัดสิ่งสกปรกในขั้นตอนถัดไป
• มาส์กหน้า ขจัดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก เดี๋ยวนี้มีมาส์กหน้าหลากหลายขนิด สามารถเลือกใช้มาส์กได้ตามความชอบได้เลย 
• เติมความชุ่มชื้นด้วยสกินแคร์ หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ให้ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือ ครีมบำรุงสกินแคร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นยืดหยุ่นให้กับผิว
• นวดหน้า เพิ่มความผ่อนคลายให้กับผิว นวดกระตุ้นการเลือดไหลเวียนของเลือด เพื่อผิวกระจ่างใส ด้วยมือ หรือ อุปกรณ์หิวนวดหน้า  

 

 

สรุป ทรีทเม้นท์

เพราะผิวหนังไม่ต่างอะไรกับร่างกายที่ต้องการอาหารเพื่อเข้าไปซ่อมแซม บำรุง ดังนั้นควรหมั่นเติมอาหารให้ผิว หากไม่อยากให้ผิวพรรณของเราต้องเหี่ยวย่น ขาดน้ำ แห้งกร้าน หมองคล้ำ ดูไม่น่ามอง หมั่นบำรุงผิวด้วยการทำความสะอาดผิว เติมอาหารให้กับผิว เสริมเกราะป้องกันผิวด้วยการทรีทเม้นท์ง่ายๆเองที่บ้าน แต่ถ้าอยากบำรุงอย่างล้ำลึกแบบรวดเร็วด้วย 5 วิธีที่บอกไปข้างต้น แนะนำควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้งในช่วงแรกๆ หลังจากนั้นให้เว้นช่วงเป็น 2 อาทิตย์ครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวบอบบาง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล