สารบัญ
สิวเกิดจากอะไร
สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่หลายคนประสบในช่วงวัยรุ่นและแม้กระทั่งในวัยผู้ใหญ่ แม้จะเป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่การที่เราไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว อาจทำให้การรักษาและป้องกันสิวไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและจัดการกับสิวได้อย่างถูกต้องและทันเวลา บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุที่หลากหลายของการเกิดสิว เพื่อให้คุณได้มีความรู้และเครื่องมือในการดูแลผิวพรรณให้สวยงามและสุขภาพดีตลอดเวลา
สิวเกิดจากอะไร ปัจจัยภายใน
การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมัน (Sebum Overproduction)
การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมัน หรือ Sebum Overproduction เป็นหนึ่งใน สาเหตุของการเกิดสิว หลักที่ทำให้เกิดสิว ต่อมไขมัน (Sebaceous Glands) เป็นต่อมเล็ก ๆ ที่อยู่บริเวณรูขุมขนทั่วผิวหนัง ซึ่งทำหน้าที่ผลิตน้ำมันหรือซีบัม (Sebum) เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและปกป้องผิวหนังจากสิ่งแวดล้อมภายนอก อย่างไรก็ตาม
สาเหตุของการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgens) ฮอร์โมนแอนโดรเจน เช่น เทสโทสเตอโรน (Testosterone) มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการผลิตซีบัม โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่ฮอร์โมนนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงนี้ทำให้ต่อมไขมันขยายตัวและผลิตซีบัมมากขึ้น เป็นเหตุที่วัยรุ่นมักจะเกิดปัญหาสิวมากที่สุด
พันธุกรรม (Genetics)
พันธุกรรมเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการผลิตน้ำมันในผิวหนัง หากมีคนในครอบครัวมีปัญหาสิวเนื่องจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน มีโอกาสสูงที่คุณจะประสบปัญหาเดียวกัน
ความเครียด (Stress)
ความเครียดทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งสามารถกระตุ้นการผลิตซีบัมเพิ่มขึ้น มีโดยผลการวิจัยหลายตัว แสดงให้เห็นว่าความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังต่อไปนี้
- การศึกษาในนักศึกษาแพทย์ (Study on Medical Students) การศึกษาหนึ่งได้ทำการวิเคราะห์นักศึกษาแพทย์ในช่วงที่มีความเครียดสูง เช่น ช่วงสอบ พบว่าความเครียดมีผลให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น นักวิจัยพบว่านักศึกษาที่รายงานว่ามีความเครียดสูงจะมีสิวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- การศึกษาในผู้ใหญ่ (Study on Adults) การวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ทำในผู้ใหญ่ที่มีปัญหาสิว พบว่าความเครียดมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว โดยความเครียดทำให้สิวที่มีอยู่แย่ลงและเพิ่มการเกิดสิวใหม่
- กลไกทางสรีรวิทยา (Physiological Mechanisms) ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน (Sebum Production) ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น
- ความเครียดยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ (Inflammation) และส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การรักษาแผลและการตอบสนองต่อการติดเชื้อแย่ลง
การสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว (Dead Skin Cell Accumulation)
การสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิว เมื่อเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไม่หลุดออกตามธรรมชาติ จะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ร่วมกับซีบัมและสิ่งสกปรกอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและปัญหาผิวอื่นๆ
กระบวนการผลัดเซลล์ผิว (Skin Cell Turnover)
ผิวหนังของเราประกอบด้วยหลายชั้น โดยชั้นที่อยู่บนสุดคือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่สร้างขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะมีหลายขั้นตอนดังต่อไปนี้
- การสร้างเซลล์ใหม่ (Cellular Proliferation) เซลล์ใหม่ถูกสร้างขึ้นในชั้นฐานของหนังกำพร้า (Basal Layer) และค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปสู่ผิวหนังชั้นบน
- การเคลื่อนตัวของเซลล์ (Cell Migration) เมื่อเซลล์ผิวหนังเคลื่อนตัวขึ้นมา สารเคมีและปัจจัยต่างๆ จะกระตุ้นให้เซลล์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงรูปร่างและคุณสมบัติ
- การผลัดเซลล์ (Desquamation) เมื่อเซลล์ผิวหนังเคลื่อนตัวถึงชั้นบนสุด (Stratum Corneum) จะกลายเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและค่อยๆ หลุดออกจากผิวหนังอย่างเป็นธรรมชาติ
การติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes
การติดเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes (P. acnes) เป็นแบคทีเรียที่มีบทบาทสำคัญในการเกิดสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ การเข้าใจการทำงานและผลกระทบของแบคทีเรียนี้จะช่วยให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณลักษณะของ Propionibacterium acnes
- แบคทีเรียแกรมบวก (Gram-positive) acnes เป็นแบคทีเรียที่มีผนังเซลล์หนาและย้อมติดสีม่วงเมื่อทำการย้อมแกรม (Gram Staining)
- ไม่ต้องการออกซิเจน (Anaerobic) acnes เป็นแบคทีเรียที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีออกซิเจน หรือมีออกซิเจนต่ำ ซึ่งพบในรูขุมขนที่อุดตัน
พบได้ตามธรรมชาติบนผิวหนัง
- acnes เป็นส่วนหนึ่งของไมโครไบโอม (Microbiome) ผิวหนัง พบได้ตามธรรมชาติในรูขุมขนของมนุษย์ และมีบทบาทในการรักษาสมดุลของผิวหนัง
- การติดเชื้อ acnes และการเกิดสิว
- เมื่อ acnes เจริญเติบโตมากเกินไปในรูขุมขนที่อุดตัน จะทำให้เกิดการอักเสบและสิว
การอุดตันของรูขุมขน
รูขุมขนที่อุดตันด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและซีบัมเป็นแหล่งอาหารที่ดีสำหรับ P. acnes ทำให้แบคทีเรียนี้เจริญเติบโตได้ดี
การสร้างสารเคมีที่ก่อให้เกิดการอักเสบ
acnes ผลิตเอนไซม์และสารเคมีต่างๆ เช่น เอนไซม์ไลเปส (Lipase) ซึ่งย่อยสลายซีบัมให้เป็นกรดไขมันอิสระ กรดไขมันเหล่านี้ก่อให้เกิดการอักเสบในรูขุมขน
การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
สารเคมีที่ผลิตโดย P. acnes กระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเข้ามาบริเวณที่ติดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบและบวม
ปัจจัยทางพันธุกรรม
การเป็นสิวมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้เกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือปัจจัยทางพันธุกรรม การศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการเป็นสิวสามารถถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ ทำให้คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นสิวมีโอกาสสูงที่จะประสบปัญหานี้เช่นกัน การเข้าใจบทบาทของพันธุกรรมจะช่วยให้เราสามารถจัดการและป้องกันสิวได้ดียิ่งขึ้น
การศึกษาฝาแฝดแสดงให้เห็นว่าฝาแฝดที่เหมือนกัน (Identical Twins) มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงและลักษณะของสิวคล้ายกันมากกถึง 64% ฝาแฝดที่ไม่เหมือนกัน (Fraternal Twins) มีโอกาส 49% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญในการเกิดสิวอย่างมาก
สิวเกิดจากอะไร ปัจจัยภายนอกร่างกาย
ปัจจัยภายนอก หมายถึง ปัจจัยที่เกิดขึ้นภายนอกร่างกาย ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ได้แก่
สภาพอากาศและมลภาวะ
สภาพอากาศแบบต่างๆ ทั้ง ร้อน แห้ง ชื้น ส่งผลกระทบทำให้เกิดสิวได้ เช่น เมื่อผิวจำเป็นต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจากแสงแดด อีกทั้งยังมีฝุ่นและควันจากท้องถนน หรือมลภาวะต่างๆ จึงเพิ่มโอกาสให้สิ่งสกปรกเหล่านี้เข้ามาอุดตันที่รูขุมขน เป็นสาเหตุของการเกิดสิวมากขึ้น
เครื่องสำอางและสารเคมีตกค้าง
การใช้ยาทาหรือสารบางอย่างกับผิว เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ เช่น สเตียรอยด์ เครื่องสำอาง เมคอัพ และสารเคมีบางอย่างอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เพราะหากเครื่องสำอางที่เราใช้ทาตกค้างอยู่ที่ผิว จะทำให้เกิดการอุดตันของผิวหนัง ทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้
การทำความสะอาดผิวหน้า
การทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ถูกวิธี ด้วยการขัดถูที่รุนแรงเกินไป หรือล้างหน้าบ่อยครั้งเกินไป จะยิ่งทำให้เป็นสิวรุนแรงมากขึ้น เพราะผิวหน้าอาจถูกทำลายและแห้งกร้านมากขึ้น อีกทั้งการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้าก็มีผลต่อการเพิ่มความมันบนใบหน้าอีกด้วย นอกจากการล้างหน้าที่ไม่เหมาะสมจะเป็นสาเหตุของการเกิดสิวแล้ว พฤติกรรมการใช้มือแคะ แกะ เกา ก็เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบของผิว และทำให้เป็นสิวได้เช่นกัน
รักษาสิว ควรเริ่มต้นอย่างไร
การรักษาสิวควรเริ่มต้นจากการประเมินระดับความรุนแรงของสิว เพื่อให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
สิวที่มีความรุนแรงน้อย
สิวระดับรุนแรงน้อยมักประกอบด้วยสิวหัวดำและสิวหัวขาว สามารถรักษาได้ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ซึ่งมี pH ที่เหมาะสมและไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ควรใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ซึ่งช่วยลดการอักเสบและการอุดตันของรูขุมขน หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่อาจอุดตันรูขุมขน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Non-comedogenic)
สิวที่มีความรุนแรงปานกลาง
สิวระดับปานกลางมักประกอบด้วยสิวตุ่ม นูนแดง และสิวหัวหนอง ในกรณีนี้อาจต้องใช้ยาที่แพทย์สั่ง เช่น ยาทาสิวที่มีส่วนผสมของกรดเรตินอยด์ (Retinoids) เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว หรือยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เพื่อลดการติดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังสามารถรักษาด้วยการทำเลเซอร์หรือแสงบำบัด (Light Therapy) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
สิวที่มีความรุนแรงมาก
สิวระดับรุนแรงมากมักประกอบด้วยสิวอักเสบขนาดใหญ่และสิวหัวช้าง ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังโดยตรง อาจใช้ยาที่มีส่วนผสมของกรดเรตินอยด์ในปริมาณมาก (High-dose Retinoids) หรือยาปฏิชีวนะ (Oral Antibiotics) หรือยาในกลุ่มไอโซเตรทิโนอิน (Isotretinoin) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการควบคุมการผลิตน้ำมัน ลดการอักเสบ และลดขนาดของต่อมไขมัน การรักษาประเภทนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรง
สรุป สิวเกิดจากอะไร
สิวเป็นปัญหาผิวหนังที่เกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน การรักษาสิวควรเริ่มต้นจากการประเมินระดับความรุนแรงและประเภทของสิว เพื่อให้สามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ การดูแลรักษาผิวให้สะอาดและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดสิว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การควบคุมความเครียด และการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะช่วยลดการเกิดสิวและรักษาผิวให้สุขภาพดี การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับปัญหาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ