สารบัญ
เชื่อว่าสาวๆ เกือบทุกท่านต้องรู้จัก “ครีมทาผิว” เป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ ต้องมีติดบ้าน ติดกระเป๋าไว้แน่นอน ครีมทาผิวยังเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญ ในปัจจุบันครีมทาผิวมีให้เลือกใช้มากมายหลายแบรนด์ และหลากหลายประเภท จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง จะได้ไม่มีปัญหาผิวมากวนใจ
ครีมทาผิว คืออะไร
ครีมทาผิว คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ออกแบบมาเพื่อให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมภายนอก และช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดี ส่วนประกอบครีมบำรุงมีทั้งน้ำและน้ำมัน โดยสามารถใช้งานได้ทั้งกลางวันหรือกลางคืน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์
ผิวขาดน้ำ คืออะไร?
ผิวขาดน้ำเป็นสภาพที่ผิวหนังสูญเสียความชื้นและไม่สามารถรักษาหรือกักเก็บน้ำไว้ภายในเซลล์ผิวได้อย่างเพียงพอ ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และอาจพบอาการอื่นๆ เช่น ความรู้สึกตึง คัน หรือปรากฏเป็นเส้นริ้วรอยได้ง่ายขึ้น ผิวขาดน้ำสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกประเภทผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม
สาเหตุของผิวขาดน้ำ
ผิวขาดน้ำเป็นปัญหาผิวพื้นฐานที่หลายคนพบเจอ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยและส่งผลให้ผิวดูแห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ เช่น การเกิดริ้วรอยก่อนวัย การระบุสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แม้ว่าผิวมันจะได้เปรียบผิวชนิดอื่นๆตรงที่ผิวมีน้ำมันเคลือบผิวมาก เนื่องจากต่อมไขมันมีจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ น้ำมันที่มาเคลือบผิวมีประโยชน์ในการป้องกันการสูญเสียน้ำได้ผิว จึงทำให้ผิวมันมีโอกาสสูญเสียน้ำได้น้อยกว่าผิวประเภทอื่น แต่อย่างไรก็ตามผิวมันยังมีโอกาสเกิดปัญหาผิวขาดน้ำได้จากปัจจัยเหล่านี้
1.โรคบางชนิด
โรคทางการแพทย์บางอย่างสามารถทำให้ผิวขาดน้ำได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ และโรคผิวหนังต่างๆ เนื่องจากโรคเหล่านี้อาจทำให้การทำงานของระบบการผลิตน้ำมันธรรมชาติบกพร่องหรือลดลง ส่งผลให้ผิวไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการใช้ยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและต่อมไขมัน เช่น โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (atopic eczema) ทำให้เสียเสียความสามารถในการรักษาน้ำไว้ที่ผิวหนัง
2.อายุ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวขาดน้ำคือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวัย ตามธรรมชาติของการแก่ตัว ผิวหนังจะค่อยๆ ลดลงในการผลิตน้ำมันและสารอื่นๆ ที่ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น เช่น คอลลาเจนและเซราไมด์ การลดลงของสารเหล่านี้ทำให้ผิวหนังสูญเสียความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้นได้ดี เป็นผลให้ผิวขาดน้ำและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น เช่น ผู้สูงอายุน้ำมันจากต่อมไขมันจะผลิตน้อยลงและไขมันระหว่างเซลล์จะลดลง ทำให้เสียน้ำออกจากผิวหนังได้ง่าย
3.ผิวเสียความสามารถในการรักษาน้ำให้คงอยู่ในผิวหนัง
นอกเหนือจากโรคทางการแพทย์และการเปลี่ยนแปลงตามวัย สภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตก็สามารถทำให้ผิวเสียความสามารถในการรักษาน้ำได้เช่นกัน การสัมผัสกับสารเคมี การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รุนแรง การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้ง การดื่มน้ำไม่เพียงพอ และการใช้ชีวิตที่มีความเครียดสูง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถของผิวในการรักษาน้ำให้คงอยู่ในผิวหนัง มักพบในผู้ที่มีประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้เครื่องสกินแคร์ที่มีความเข้มข้นสูงและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมทั้งการขัดหน้า ลอกหน้าอย่างรุนแรง
4.มีการทำลายของผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจากสารเคมี
การใช้สารเคมีที่รุนแรงบนผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นจากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิด สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สามารถทำลายชั้นหนังกำพร้าของผิวหนังได้ ชั้นหนังกำพร้ามีหน้าที่ในการปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมและช่วยในการรักษาความชุ่มชื้น การถูกทำลายของชั้นนี้ส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความสามารถในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวแห้งและเสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคือง เช่น สารทำความสะอาดชนิดรุนแรง ชะล้างน้ำมันที่เคลือบบนผิวมากเกินไป เป็นผลให้ผิวหนังสูญเสียน้ำออกสู่ภายนอกได้ง่ายขึ้น
5.สภาวะแวดล้อม
สภาพแวดล้อมที่รอบตัวเรา เช่น อากาศแห้ง การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และมลภาวะ มีผลต่อสุขภาพผิวของเราโดยตรง อากาศที่แห้งสามารถดูดซับความชื้นจากผิวหนัง ขณะที่มลภาวะสามารถทำให้ผิวเสียหายและเพิ่มการสูญเสียน้ำจากผิว การป้องกันผิวจากสภาวะแวดล้อมที่เป็นอันตรายเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นและสุขภาพผิว เช่น ในฤดูหนาว ความชื้นในบรรยากาศต่ำ การสูญเสียน้ำออกจากผิวหนังเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ผิวหนังอักเสบจากความแห้ง
6.พฤติกรรมและการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคล
วิถีชีวิตและพฤติกรรมประจำวันของเรามีผลต่อสุขภาพผิวอย่างมาก การดื่มน้ำไม่เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด การสูบบุหรี่ และการบริโภคอาหารที่ไม่สมดุลสามารถทำให้ผิวหนังขาดน้ำและสุขภาพผิวเสียหาย การดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำและสารอาหาร การออกกำลังกาย และการจัดการกับความเครียด สามารถช่วยรักษาสุขภาพผิวให้อยู่ในสภาพที่ดี
ส่วนผสมของครีมทาผิว
ครีมทาผิวแต่ละยี่ห้อ จะมีส่วนผสมแตกต่างกันทั้ง สี กลิ่นและส่วนประกอบ แต่ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมดังต่อไปนี้
น้ำ (Water)
น้ำ เป็นส่วนประกอบสำคัญเป็นอันดับแรก น้ำเป็นส่วนประกอบหลักในครีมทาผิวหลายประเภท เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผิวของเราดูอิ่มน้ำและชุ่มชื้น น้ำช่วยลดความแห้งกร้านและทำให้ผิวดูมีชีวิตชีวา ไม่แห้งกร้านไม่น่าดู
ส่วนประกอบให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer)
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังโดยการจับน้ำในผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไป มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่ดีควรมีคุณสมบัติ คือ สามารถลดการสูญเสียน้ำจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังโดยการจับน้ำในผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไปป ส่วนประกอบในส่วนนี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับผิว และยังช่วยในการปกป้องการสูญเสียน้ำของผิว มีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยดูแลผิวของเรา และสำหรับ ส่วนประกอบให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) โดยเราจะมานำเสนอ 2 ประเภทหลัก
สารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusive)
เป็นตัวสำคัญที่จะช่วยปิดกั้นไม่ให้ “น้ำ” สามารถซึมผ่านได้ โดยหากทาบนผิว มีหน้าที่สร้างเกราะป้องกันให้กับผิว เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นภายในผิวหายไป ช่วยให้ผิวของเราไม่แห้งกร้านและรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้นานขึ้น จะเป็นเหมือนฟิล์มบางๆ ดยสารในกลุ่มนี้จะได้แก่ Petrolatum และ Lanolin รวมไปถึง Dimethicone
สารที่ช่วยดูดซับน้ำ(Humectant)
Humectants เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำจากผิว โดยสารในกลุ่มนี้จะเป็นตัวช่วยในการ “เพิ่ม” ความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง โดยการช่วยจับน้ำในผิวหนังของเรา ไม่ให้ระเหยออกไปจากผิวหนัง โดยสารในกลุ่มนี้จะมีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น LacticAcid หรือ Polyol หรือแม้แต่ Urea และ Glycerol แต่สำหรับสารในกลุ่มนี้หากถูกบนผิวหนังอาจจะมีการระคายผิวหนัง ต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวังอย่างมากสำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่าย
กรดไขมันที่จำเป็น (Fatty acid)
เป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้เลย กรดไขมันที่จำเป็นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและชุ่มชื้น พวกมันช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันธรรมชาติของผิว ลดการสูญเสียน้ำ และช่วยให้ผิวนุ่มและมีความยืดหยุ่น จะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น มักพบในครีมบำรุงผิวที่ เน้นไปที่ความชุ่มชื้นของผิว และส่วนใหญ่สารในกลุ่มนี้ มักเป็นน้ำมันที่ได้จากพืช สามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ และยังมีส่วนช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
วิตามิน (Vitamin)
วิตามิน ที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาใน ครีมทาผิว มักจะมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน B5 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี หรือจะเป็น วิตามินอี และ วิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว แต่สภาพแวดล้อมภายนอกก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวของวิตามินทั้ง 2 ชนิดนี้ลดลงไปได้เช่นกัน
เรตินอล (Retinol)
Retinol เป็นชื่อเรียกโดยรวมของ กลุ่มอนุพันธุ์วิตามิน A ซึ่งมีสารหลากหลาย เช่น Retinaldehyde , Retinoic Acid ,Adapalene อนุพันธุ์ Retinoid ที่อนุญาตให้ใช้ในเครื่องสำอางได้ตามกฎ FDA ส่วนอนุพันธุ์ที่เป็นยาควรให้แพทย์สั่งจ่าย คือ Retinoic Acid หรือที่คนทั่วไปรู้จักในชื่อการค้าว่า Retin-A ซึ่งเป็นสารคนละตัวกัน โดย Retinol มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมผิวและลดการเกิดริ้วรอย มันช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเร่งการหมุนเวียนของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น เรตินอลยังช่วยในการปรับปรุงผิวที่มีปัญหา เช่น การรักษาสิวและลดจุดด่างดำ
ส่วนผสมอื่นๆ
นอกจากส่วนประกอบหลักที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว ครีมทาผิวยังอาจมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น สารสกัดจากชาเขียว, เบต้า-กลูแคน (Beta-Glucan), และนิอาซินาไมด์ (Niacinamide) ที่ช่วยปรับปรุงสภาพผิวและปกป้องผิวจากความเสียหายต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ผิวของเราดูและรู้สึกดีที่สุด โดยขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ดังกล่าว ต้องการเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าแบบใด
เลือกครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิว
ความแตกต่างกันของสภาพผิวของที่ไม่เหมือนกัน การเลือกครีมทาผิวที่เหมาะสมกับประเภทผิวของคุณเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการดูแลผิว แต่ละประเภทผิวมีความต้องการที่แตกต่างกันและควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นเพื่อให้ผิวมีสุขภาพดี โดยสามารถแบ่งออกไปได้ดังต่อไปนี้
ผิวทั่วไป
ผู้ที่มีผิวทั่วไปมักไม่มีปัญหาผิวเฉพาะ เช่น ความมันเกินไป หรือ ความแห้งกร้านมากเกินไป ครีมทาผิว ที่ถูกต้องสำหรับผิวทั่วไปควรมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และสมดุล คุณอาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของหลายประเภทเพื่อบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นได้หลายประเภท
ผิวมัน (Oily Skin)
ลักษณะแบบ ผิวมัน คือ ผู้ที่มีผิวมันควรหลีกเลี่ยงครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันสูง ควรเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมเบาบางและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพื่อลดการเกิดสิว และเพิ่มความมันของผิวหน้ามากเข้าไปอีก คุณคงไม่อยากเอาน้ำมันไปยอดโซ่แน่นอน โดย ครีมที่มีส่วนผสมเช่น ไฮยาลูโรนิค แอซิด หรือน้ำแร่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะช่วยให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน
ผิวแห้ง (Dry Skin)
ผู้มีลักษณะ ผิวแห้ง หน้าหนาวมาแต่ละทีหน้าแตกเป็นลายงา ดังนั้นคุณควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมน้ำมันและปิโตรเลียมเป็นหลัก ครีมที่มีส่วนผสมของสารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน เช่น เชียบัตเตอร์หรือน้ำมันจากพืช อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผิวแห้ง เพื่อช่วยให้ผิวนุ่มและลดการแห้งกร้าน เพราะมีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวได้นาน ทำให้ผิวหน้าไม่แห้งตึง แตกลายงาหมดความมั่นใจเอาง่ายๆ
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
มาถึงส่วนสำคัญก็คือ ลักษรณะ ผิวแพ้ง่าย โดยจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนภายนอกมากเป็นพิเศษ ทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผื่นแดง รู้สึกคัน หรือแสบผิวได้ง่ายกว่าลักษณะผิวแบบอื่นๆ หลายเท่า ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ควรเลือกใช้ ครีมทาผิว สูตรอ่อนโยนต่อผิวและมีส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่แต่งสี แต่งกลิ่น หรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ
ผิวผสม (Combination Skin)
ผิวผสม จะมีสภาพผิวจะมันและแห้งในเวลาเดียวกันแต่จะเกิดต่างบริเวณกันเท่านั้น บริเวณผิวที่มันควรใช้ครีมที่มีคุณสมบัติซึมซับเข้าสู่ผิวได้ง่ายและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม ส่วนบริเวณผิวที่แห้งควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือออยล์และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
สรุป ครีมทาผิว
การเลือกครีมทาผิวที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการดูแลผิวให้มีสุขภาพดี แต่ละประเภทของผิวมีความต้องการที่แตกต่างกัน และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผิวพรรณดูและรู้สึกดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผิวทั่วไป, ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม การเลือกครีมที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผิวของคุณได้รับการบำรุงและการปกป้องที่ต้องการ ครีมทาผิวมักประกอบด้วยส่วนผสมหลักที่สำคัญ เช่น น้ำ ซึ่งเป็นตัวกระจายความชุ่มชื้น สารที่ให้ความชุ่มชื้นเช่นกลีเซอรีนและไฮยาลูโรนิค แอซิด สารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน เพื่อล็อคความชุ่มชื้นในผิว รวมถึงสารอื่นๆ เช่น วิตามินและเรตินอลที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว การใช้ครีมทาผิวที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบและมีสุขภาพดี แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดการดูแลเหมาะสม การดูแลผิวด้วยครีมทาผิวเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองที่ควรได้รับความสนใจอย่างจริงจัง เพื่อรักษาสุขภาพของผิวให้มีสุขภาพที่ดีอยู่นานที่สุด
และนี่คือไอเท็มลับที่ไม่ลับสำหรับการบำรุงผิว ดังนั้นสาวๆที่ต้องการมีผิวสวย สุขภาพดี ควรเลือก ครีมทาผิว ที่ใช่สำหรับผิวของตนเอง เพื่อเผยผิวสวยใสในแบบที่ต้องการ