บางคนอาจเคยสงสัยว่า สิวเม็ดข้าวสาร (Milia) คืออะไร ซึ่งสิวเม็ดข้าวสารเป็นอีกหนึ่งสิวที่รักษายาก กว่าจะหายก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะเป็นสิวลักษณะแข็งกว่าสิวประเภทอื่นๆ วันนี้ AquaPlus จะพาทุกคนไปรู้จักเกี่ยวกับสิวเม็ดข้าวสาร สาเหตุ การรักษา และการป้องกันมีอะไรบ้าง พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
สิวเม็ดข้าวสาร
หรือ สิวหิน คือ สิวที่มีลักษณะสีขาวไข่มุก มีขนาดเล็กประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ส่วนใหญ่สิวข้าวสารมักจะเกิดบริเวณใบหน้า หน้าผาก แก้ม จมูก ใต้ตา และเปลือกตา ซึ่งสามารถพบได้ตั้งแต่ในเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ
สาเหตุการเกิด
สิวเม็ดข้าวสารมีสาเหตุการเกิดอยู่หลายปัจจัย ซึ่งเราจะแบ่งออกเป็นสิวเม็ดข้าวที่เกิดขึ้นตามวัย ได้แก่
สิวข้าวสารในเด็กทารก
ในเด็กทารกมักจะพบสิวเม็ดข้าวสารบ่อยกว่าทุกช่วงวัย เพราะเด็กทารกต่อมไขมันยังมีการเติบโตไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้ ซึ่งสิวเม็ดข้าวสารในเด็กทารกจะหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์
สิวข้าวสารในวัยรุ่น เด็ก และผู้ใหญ่
บางครั้งอาจเกิดจากเส้นใยเคราตินที่อยู่ใต้ผิวหนังรวมตัวสะสมกันจนเกิดเป็นสิวข้าวสาร หรือ อาจเกิดจากอาการผิดปกติบางอย่างที่ผิวหนัง เช่น กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome) มะเร็งผิวหนังบางชนิด หรือความผิดปกติทางพันธุกรรมอื่นๆ โดยมักจะเกิดตรงบริเวณเปลือกตา หน้าผาก อวัยวะเพศ และบริเวณรอยพับจมูกในเด็กเล็ก ซึ่งอาจจะหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์หรืออาจอยู่นานหลายเดือนเลยก็ได้
ชนิดของสิวเม็ดข้าวสาร
สิวเม็ดข้าวสารแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด ดังนี้
สิวเม็ดข้าวสารแบบราบ
เป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแล้วเกิดเป็นก้อนยาวแข็งแบบราบ ในบางรายอาจขึ้นยาวหลายเซนติเมตร มักเกิดที่บริเวณหลังหู แก้ม เปลือกตา และกราม เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยกลางคน
- สิวเม็ดข้าวสารแบบแผลเป็น
เป็นสิวที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับความบาดเจ็บที่บริเวณผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ พุพอง เป็นผื่น เป็นแผลจากไฟไหม้ การถู ขัด หรือเสียดสีที่ผิวหนังซ้ำๆ หรืออาจเกิดจากการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวนซึ่งสิวชนิดนี้มักจะเกิดตรงบริเวณนิ้วมือและหลังมือ
สิวเม็ดข้าวสารแบบแตกได้
สิวชนิดนี้พบได้ยาก แต่หากเป็นแล้วจะขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายเม็ด และใช้เวลารักษานาน สิวเม็ดข้าวสารแบบแตกออกได้ เมื่อแตกออกแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น และอาจมีอาการคันเกิดขึ้นในบางราย มักจะพบที่ตรงบริเวณใบหน้า แขนช่วงบน และลำตัวช่วงบน
สิวเม็ดข้าวสารที่เกิดจากยา
เป็นสิวเม็ดข้าวสารที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ฟลูออโรยูราซิล ไฮโดรควิโนน และครีมหรือตัวยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
วิธีการรักษาสิวเม็ดข้าวสาร
การรักษาสิวเม็ดข้าวสารสามารถทำได้หลากหลายวิธีมาก ได้แก่
การรักษาด้วยเข็มกดสิว
การรักสิวเม็ดข้าวสารนั้น จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงทุกคนมีที่กดสิวสักอัน แล้วนำด้านเข็มนั้นกดลงไปที่สิวเม็ดข้าวสาร จากนั้นก็เอาอีกด้านหนึ่งกดลงบนสิวเม็ดข้าวสารอย่างเน้น ๆ จนสิวเม็ดนั้นดันออกมาข้างนอกเอง แต่การทำวิธีนี้ อาจจะทำให้ผิวอักเสบมาก ๆ จนเกิดเป็นรอยแผลได้ ถ้าเกิดว่าไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองมากพอ ก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ใช้วิธีนี้กำจัดสิวเม็ดข้าวสารให้จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของผิวของเรานะคะ
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขนมาใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อมารักษาสิวเม็ดข้าวสารอย่างตรงจุด เช่น โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ เอเอชเอและบีเอชเอ เป็นต้น
การรักษาด้วยปูนแดง
วิธีการรักษานี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ได้ผลดีเกินคาด แถมใช้งบไม่เยอะ แค่นำปูนแดงมาผสมน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาแต้มไว้ตรงสิวหินวันละ 1-2 ครั้ง ใช้เป็นประจำ แล้วสิวเม็ดข้าวสารนั้นจะแห้งพร้อมหลุดออกไปเองโดยไม่ต้องใช้แรงกดใดๆ ให้เจ็บเลยค่ะ
การรักษาด้วยเลเซอร์
วิธีการรักษานี้ เป็นวิธีสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ เพราะในขั้นตอนนี้สาวๆ ต้องหาคลินิกที่น่าเชื่อถือได้และได้มาตรฐาน และควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการตรวจเช็คสภาพผิวว่าสามารถทำเลเซอร์ได้ไหม เพราะสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป วิธีการนี้เป็นวิธีการที่รวดเร็ว สะดวกที่สุด และไม่ทิ้งรอยแผลไว้ให้ลำบากใจอีกต่อไป แต่ก็ต้องมาควบคู่กับงบค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน
วิธีการป้องกันสิวเม็ดข้าวสาร
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดความอุดตัน
- ลดการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางให้น้อยลง เพื่อลดการอุดตันที่ทำให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร
- ทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รูขุมขนสะอาดมากขึ้นและไม่เกิดการอุดตัน
- ทาครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือสารระคายเคือง เพื่อลดการเกิดสิวเม็ดข้าวสารและลดความอุดตันมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน ๆ เพราะอาหารมัน ๆ จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันและทำให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น