สิวเม็ดข้าวสาร คืออะไร สาเหตุ การรักษา และการป้องกัน

สิวเม็ดข้าวสาร

สารบัญ

บางคนอาจเคยสงสัยว่า สิวเม็ดข้าวสาร หรือ Milia คืออะไร เป็นสิวอีกหนึ่งสิวที่รักษายาก กว่าจะหายก็ใช้เวลานานพอสมควร เพราะเป็นสิวลักษณะแข็งกว่า สิว ประเภทอื่นๆ วันนี้ AquaPlus จะพาทุกคนไปรู้จักเกี่ยวกับสิวเจ้าปัญหา สาเหตุ การรักษา และการป้องกันมีอะไรบ้าง ซึ่งบางทีสิวประเภทเดียวกันแต่ปัญหาและที่มาของสิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากต้องการค้นหาปัญหาของคุณแบบเจาะลึกสามารถคลิกที่นี้เพื่อ ทางเรามีคำแนะนำให้พร้อมวิธีการดูแลรักษาตามสาเหตุและสภาพอาการของท่าน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

สิวเม็ดข้าวสาร ไม่ใช่สิวหิน

หลายคนมักจะสับสนว่าสิวเม็ดข้าวสารและสิวหินเป็นสิวชนิดเดียวกัน เพราะลักษณะที่คล้ายคลึงกัน และวันนี้เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างสิวทั้งสองประเภท เพื่อให้สามารถดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี

สิวเม็ดข้าวสาร (Milia)

สิวเม็ดข้าวสาร มีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง นูน ขนาดเล็ก สีขาวคล้ายเม็ดข้าวสาร มักพบรอบดวงตา แก้ม จมูก หน้าผาก และลำตัว สิวชนิดนี้เกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อซึ่งถูกก่อกวนจากการขัดถู หรือเสียดสีซ้ำๆ หรือหลังจากแผลที่เพิ่งหายที่ผิวหนังบริเวณนั้น

สิวหิน (Syringoma)

สิวหิน เป็นเนื้องอกของท่อเหงื่อ ลักษณะเป็นตุ่มแข็งขนาดเล็ก สีขาวหรือเหลือง ไม่มีอันตราย และไม่มีอาการเจ็บหรือคัน สิวหินมักพบรอบดวงตา แต่สามารถเกิดที่บริเวณอื่นของร่างกายได้เช่นกัน สาเหตุการเกิดยังไม่แน่ชัด แต่ส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมและอายุ

สิวเม็ดข้าวสารใต้ตา

สิวเม็ดข้าวสารใต้ตาไม่ใช่สิวในแบบที่เรารู้จักทั่วไป แต่เป็นความผิดปกติของต่อมไขมันซึ่งผลิตน้ำมันเกินขึ้นมา โดยมักเป็นไขมันที่ถูกเก็บรักษาไว้ใต้ผิวหนังและไม่มีทางออก ส่งผลให้เกิดตุ่มนูนขนาดเล็กและแข็ง เหมือนเม็ดข้าวสาร ที่บริเวณใต้ตา ปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงกรรมพันธุ์ การแก่ชรา หรือการอุดตันของต่อมไขมัน

สิวเม็ดข้าวสารเกิดจากอะไร

สิวหัวข้าวสาร (Milia) เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ซึ่งมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดสิวหัวข้าวสารได้ สิวเม็ดข้าวสารมีสาเหตุการเกิดอยู่หลายปัจจัย ซึ่งเราจะยกตัวอย่าง ได้แก่

ต่อมไขมันยังมีการเติบโตไม่เต็มที่

การเติบโตของต่อมไขมันที่ไม่เต็มที่สามารถทำให้เกิดการอุดตันของท่อไขมัน ส่งผลให้เกิดสิวหัวข้าวสาร ซึ่งพบได้บ่อยในทารกแรกเกิดที่ระบบการทำงานของต่อมไขมันยังไม่สมบูรณ์

เส้นใยเคราตินที่อยู่ใต้ผิวหนังสะสมตัวมากเกินไป

เคราตินเป็นโปรตีนที่อยู่ในชั้นผิวหนัง เมื่อเส้นใยเคราตินสะสมตัวมากเกินไปและไม่สามารถหลุดออกจากผิวได้ จะทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวหัวข้าวสาร

อาการเจ็บป่วยต่างๆ

การเจ็บป่วยต่างๆ เช่น การบาดเจ็บผิวหนัง การเผาไหม้ หรือการอักเสบ อาจทำให้ระบบการทำงานของผิวหนังเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวหัวข้าวสาร

ความผิดปกติทางพันธุกรรม

บางคนมีความเสี่ยงที่จะเกิดสิวหัวข้าวสารมากขึ้นเนื่องจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้

การติดเชื้อ

การติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรีย สามารถทำให้ผิวหนังอักเสบและเกิดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวหัวข้าวสาร

ยาบางชนิด

ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ และยาทาที่มีส่วนประกอบของโคโมโดเจนิก อาจกระตุ้นให้เกิดการอุดตันของท่อไขมันและเป็นสิวหัวข้าวสารได้

สิวเม็ดข้าวสาร ในวัยต่างๆ

ปัญหาสิวนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย โดยมีสาเหตุและลักษณะการเกิดที่แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ การเข้าใจสาเหตุและวิธีการดูแลสิวเม็ดข้าวสารในแต่ละช่วงวัยจะช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาผิวนี้ได้อย่างเหมาะสม บทความนี้จะพาไปดูกันว่าสิวเม็ดข้าวสารมีลักษณะและสาเหตุการเกิดในแต่ละวัยอย่างไรบ้าง

สิวเม็ดข้าวสารในเด็กทารก

ในเด็กทารกมักจะพบสิวแบบนี้บ่อยกว่าทุกช่วงวัย เพราะเด็กทารกต่อมไขมันยังมีการเติบโตไม่เต็มที่ จึงทำให้เกิดสิวลักษณะนี้ได้ โดยสิวลักษณะนี้ในเด็กทารกจะหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์

สิวเม็ดข้าวสารในวัยรุ่น เด็ก และผู้ใหญ่

บางครั้งอาจเกิดจากเส้นใยเคราตินที่อยู่ใต้ผิวหนังรวมตัวสะสมกันจนเกิดเป็นสิวข้าวสาร หรือ อาจเกิดจากอาการผิดปกติบางอย่างที่ผิวหนัง เช่น กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome) มะเร็งผิวหนังบางชนิด หรือความผิดปกติทางพันธุกรรมอื่นๆ โดยมักจะเกิดตรงบริเวณเปลือกตา หน้าผาก อวัยวะเพศ และบริเวณรอยพับจมูกในเด็กเล็ก ซึ่งอาจจะหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์หรืออาจอยู่นานหลายเดือนเลยก็ได้

สิวเม็ดข้าวสารในผู้สูงอายุ

ในผู้สูงอายุ การเกิดสิวเม็ดข้าวสารอาจเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของผิวหนังและการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งทำให้การผลัดเซลล์ผิวช้าลง นอกจากนี้ ปัญหาการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง ก็อาจส่งผลให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้เช่นกัน

ชนิดของสิวเม็ดข้าวสาร

โดยสามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด ดังนี้

สิวแบบราบ

เป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแล้วเกิดเป็นก้อนยาวแข็งแบบราบ ในบางรายอาจขึ้นยาวหลายเซนติเมตร มักเกิดที่บริเวณหลังหู แก้ม เปลือกตา และกราม เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยกลางคน

สิวแบบแผลเป็น

เป็นสิวที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับความบาดเจ็บที่บริเวณผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ พุพอง เป็นผื่น เป็นแผลจากไฟไหม้ การถู ขัด หรือเสียดสีที่ผิวหนังซ้ำๆ หรืออาจเกิดจากการที่ต่อมไขมันและรูขุมขนถูกรบกวนซึ่งสิวชนิดนี้มักจะเกิดตรงบริเวณนิ้วมือและหลังมือ

สิวแบบแตกได้

สิวชนิดนี้พบได้ยาก แต่หากเป็นแล้วจะขึ้นเป็นจำนวนมาก หลายเม็ด และใช้เวลารักษานาน สิวแบบแตกออกได้ เมื่อแตกออกแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น และอาจมีอาการคันเกิดขึ้นในบางราย มักจะพบที่ตรงบริเวณใบหน้า แขนช่วงบน และลำตัวช่วงบน

สิวที่เกิดจากยา

เป็นสิวที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ฟลูออโรยูราซิล ไฮโดรควิโนน และครีมหรือตัวยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

สิวเม็ดข้าวสาร กับการดูแลรักษา

การดูแลสามารถทำได้หลากหลายวิธีมาก ได้แก่

การรักษาด้วยเข็มกดสิว

การดูแลสิวชนิดนี้นั้น จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงทุกคนมีที่กดสิวสักอัน แล้วนำด้านเข็มนั้นกดลงไปที่หัวสิว จากนั้นก็เอาอีกด้านหนึ่งกดลงบนสิวรอย่างเน้น ๆ จนสิวเม็ดนั้นดันออกมาข้างนอกเอง แต่การทำวิธีนี้ อาจจะทำให้ผิวอักเสบมาก ๆ จนเกิดเป็นรอยแผลได้ ถ้าเกิดว่าไม่มั่นใจในฝีมือตัวเองมากพอ ก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ใช้วิธีนี้กำจัดสิวให้จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของผิวของเรานะคะ

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว

ควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขนมาใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อมาดูแลสิวอย่างตรงจุด เช่น โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ เอเอชเอและบีเอชเอ เป็นต้น

การรักษาด้วยปูนแดง

วิธีการรักษานี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ได้ผลดีเกินคาด แถมใช้งบไม่เยอะ แค่นำปูนแดงมาผสมน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาแต้มไว้ตรงสิววันละ 1-2 ครั้ง ใช้เป็นประจำ แล้วสิวนั้นจะแห้งพร้อมหลุดออกไปเองโดยไม่ต้องใช้แรงกดใดๆ ให้เจ็บเลยค่ะ

การรักษาด้วยเลเซอร์

วิธีการรักษานี้ เป็นวิธีสุดท้ายที่อยากจะแนะนำ เพราะในขั้นตอนนี้สาวๆ ต้องหาคลินิกที่น่าเชื่อถือได้และได้มาตรฐาน และควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการตรวจเช็คสภาพผิวว่าสามารถทำเลเซอร์ได้ไหม เพราะสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป วิธีการนี้เป็นวิธีการที่รวดเร็ว สะดวกที่สุด และไม่ทิ้งรอยแผลไว้ให้ลำบากใจอีกต่อไป แต่ก็ต้องมาควบคู่กับงบค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกัน

รักษาสิวเม็ดข้าวสาร

วิธีการป้องกัน สิวเม็ดข้าวสาร

  • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดความอุดตัน
  • ลดการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางให้น้อยลง เพื่อลดการอุดตันที่ทำให้เกิดสิว
  • ทำความสะอาดใบหน้าด้วยคลีนซิ่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รูขุมขนสะอาดมากขึ้นและไม่เกิดการอุดตัน
  • ทาครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมหรือสารระคายเคือง เพื่อลดการเกิดสิวและลดความอุดตันมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงอาหารมัน ๆ เพราะอาหารมัน ๆ จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันและทำให้เกิดสิวได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

สรุป

หลายคนอาจสับสนระหว่างสิวแบบนี้กับสิวหัวขาว ซึ่งหากมองดูตาเปล่าอาจจะดูคล้ายกัน แต่สิวสองประเภทนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยมีหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกัน สิวชนิดนี้นั้นเกิดจากเซลล์ผิวที่อุดตันฝังลึกและไม่สามารถผลักลอกได้ตามธรรมชาติอันเนื่องด้วยหลากหลายสาเหตุ ดังน้้นวิธีการที่เข้าจัดการปัญหาได้ตรงจุดที่สุดคือการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด ไม่ให้ผิวมันและมีสารตกค้าง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ขจัดสิ่งสกปรกอุดตันลึกในระดับเซลล์ผิวชั้นล่าง แต่ควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงและกระทบต่อผิวหน้า เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและรบกวนต่อผิวหน้าให้น้อยที่สุด

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า