สารบัญ
การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลรักษาผิวให้สวยใส เรียบเนียน และมีสุขภาพผิวดี โดยผลิตภัณฑ์สำคัญสองตัวที่ขาดไม่ได้เลยในการล้างหน้า นั่นก็คือ คลีนซิ่งและคลีนเซอร์ ซึ่งทั้งสองตัวต่างก็มีขั้นตอนการใช้ที่ไล่เรียงลำดับกันอยู่ เป็นไอเทมที่เรียกได้ว่าต้องใช้คู่กันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นขั้นตอนการใช้คลีนซิ่งและคลีนเซอร์ในการทำความสะอาดผิวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ วันนี้แอดมินก็มีขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าแบบละเอียดมาฝากทุกคนกัน จะมีขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
ขั้นตอน การใช้ คลีนชิ่ง และคลีนเซอร์
เริ่มแรกเลยเราต้องทำความสะอาดผิวหน้าของเราก่อน เพราะในวันหนึ่ง ๆ เรามีการแต่งหน้า ทาครีมกันแดด หรือใช้เครื่องสำอางต่างๆ รวมถึงในบางครั้งเราอาจจะไปเจอกับมลภาวะต่างๆ ที่เป็นสิ่งสกปรกที่อาจไม่สามารถล้างออกได้ด้วยคลีนเซอร์ได้ เช่น เขม่ารถ ควัน ไอเสียต่างๆ เป็นต้น
ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง
คลีนซิ่งมีหลายแบบให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น คลีนซิ่งน้ำ คลีนซิ่งออยล์ คลีนซิ่งเจล คลีนซิ่งครีม คลีนซิ่งน้ำนม เป็นต้น การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง หากเป็นสูตรน้ำหรือสูตรน้ำมันก็สามารถใช้สำลีชุบคลีนซิ่งแล้วเช็ดผิวหน้าได้เลย แต่ถ้าหากเป็นคลีนซิ่งที่มีความหนืดอย่างคลีนซิ่งเจลหรือคลีนซิ่งน้ำนมอาจต้องใช้กระดาษทิชชูซับความมันบางส่วนออกจากผิวหน้าก่อนแล้วจึงใช้คลีนซิ่งนวดบนผิวหน้าเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ จนทั่วใบหน้าและลำคอ
ทำความสะอาดขอบตาด้วยคลีนชิ่ง
ขอบตาเป็นจุดที่ค่อนข้างที่จะบอบบางมาก ห้ามขยี้ เช็ด ถู หรือ ขัดอย่างรุนแรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดเป็นริ้วรอยและตีนกาก่อนวัยขึ้นได้ วิธีการทำความสะอาดขอบตาและบริเวณรอบๆ ดวงตาด้วย คลีนซิ่ง นั่นก็คือ เริ่มแรกให้เช็ดเปลือกตาอย่างเบามือ แล้วค่อยๆ เช็ดไล่ไปตามขอบตา อาจจะพับสำลีเป็นปลายสามเหลี่ยมเพื่อเช็ดเครื่องสำอางที่อยู่ในชั้นเปลือกตาออกให้หมด โดยต้องทำแบบเบามือเท่านั้น ห้ามรุนแรงเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดการระคายเคืองตาและเพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ทำความสะอาดปากด้วยคลีนซิ่ง
ใช้สำลีเช็ดริมฝีปากอย่างเบามือ โดยให้เช็ดตามแนวดิ่งจากด้านในปากออกมาข้างนอกที่เป็นขอบปาก ไม่แนะนำให้เช็ดแบบตามแนวขวาง เพราะการเช็ดถูริมฝีปากในตามแนวขวางเป็นประจำจะทำให้ริมฝีปากเป็นรอยเหี่ยวย่นและเป็นร่องได้ ซึ่งตรงบริเวณที่เป็นมุมปากอาจจะใช้วิธีเดียวกับการเช็ดชั้นเปลือกตาก็ได้ เพื่อให้เช็ดเครื่องสำอางออกได้ง่ายและสะอาดมากขึ้น นั่นก็คือ พับสำลีเป็นสามเหลี่ยม แล้วเช็ดมุมปากด้วยการใช้ตรงปลายสำลี
เปิดรูขุมขนด้วยน้ำอุ่น
ก่อนที่เราจะทำการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เราก็มาทำการเปิดรูขุมขนกันก่อน เพื่อให้การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นไปได้อย่างสะอาด หมดจด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเปิดรูขุมขนสามารถทำได้โดยการใช้น้ำอุ่นในการล้างหน้า หรือ อาจจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้ววางไว้บนผิวหน้าประมาณ 2 นาที น้ำอุ่นจะช่วยให้รูขุมขนค่อย ๆ เปิด สามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์
เมื่อเราเช็ดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยคลีนเซอร์ได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็เป็นการล้างหน้าเพื่อกำจัดแบคทีเรีย ความมันส่วนเกิน และทำความสะอาดรูขุมขนเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันและไม่ให้เกิดสิวโดยการใช้คลีนเซอร์นั่นเอง ซึ่งคลีนเซอร์ก็มีให้เลือกใช้มากมายหลายประเภท เช่น สบู่ล้างหน้า โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า ครีมล้างหน้า เป็นต้น และยังมีหลากหลายสูตรอีกด้วย อย่าง สูตรควบคุมความมัน สูตรเติมความชุ่มชื้น สูตรดูแลรักษาสิว เป็นต้น
การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์มีขั้นตอนง่ายๆ เลยคือ เมื่อเราทำให้ผิวหน้าเปียกเรียบร้อยแล้ว ก็นำคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวของเรามานวดบนผิวหน้า โดยการนวดให้ใช้วิธีการนวดเป็นวงกลม วนๆ จนทั่วใบหน้าและลำคอด้วยนิ้วกลางและนิ้วนาง เพราะนิ้วทั้งสองนี้มีแรงกดที่น้อยกว่านิ้วอื่น จึงทำให้การล้างหน้าเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงต่อผิวหน้า ซึ่งหากเราล้างหน้าด้วยความรุนแรงบ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้ผิวหน้าของเราเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
ปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็น
เมื่อทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์เสร็จแล้ว ก็ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างคลีนเซอร์ออกจากผิว จากนั้นให้ใช้น้ำเย็นล้างหน้าปิดท้าย เพื่อเป็นการปิดรูขุมขน น้ำเย็นจะทำให้รูขุมขนค่อยๆ ปิดลง การปิดรูขุมขนจะทำให้รูขุมขนสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปในรูขุมขนซ้ำอีกแบบง่ายๆ และไม่ทำให้เกิดการอุดตันจนทำให้เกิดสิว
ซับผิวหน้าให้แห้งน้ำ
เมื่อเราทำความสะอาดผิวหน้าจบ ครบทุกขั้นตอนแล้ว ก็ให้ซับผิวหน้าให้แห้งน้ำด้วยผ้าขนหนูสะอาด ห้ามเช็ดหรือถูหน้าด้วยผ้าขนหนูอย่างรุนแรงเด็ดขาด เพราะหากเช็ดหรือถูหน้าแรงๆ เป็นประจำจะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าขึ้น