สารบัญ
สำหรับสาวๆ แล้วคุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุด? หลายคนต้องรีบตอบแบบแทบไม่คิดชีวิตเลยว่าต้องเป็น “ผิว” โดยเฉพาะ “ผิวหน้า” เพราะผิวหน้า จะเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนจะสามารถสังเกตเห็นได้ ทำให้ผิวเป็นสิ่งที่มาพร้อมกันกับความมั่นใจ หากผิวหน้า หยาบแห้ง ขาดน้ำ ก็จะเป็นหนึ่งในสาเหตุของการขาดความมั่นใจอย่างแน่นอน เริ่มเห็นความสำคัญของ มอยเจอร์ไรเซอร์ แล้วหรือยัง?
และตัวช่วยที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจชั้นดี ก็คงจะไม่พ้น “มอยเจอร์ไรเซอร์” เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการดูแลผิว มันมีส่วนในการบำรุงและปกป้องผิวของคุณ โดยทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นที่เหมาะสมในผิว เพื่อป้องกันการแห้งของผิว หรือความชื้นเกินไป ที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร?
มอยส์เจอไรเซอร์ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เราใช้กันทุกวันเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว และยังช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกภายนอก บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบชนิดไม่รุนแรง ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น และช่วยปรับสภาพผิวก่อนลงเครื่องสำอาง และยังมีหน้าที่สำคัญยังช่วยสร้างความรู้สึกนุ่มนวล และยืดหยุ่นให้กับผิว ผลิตภัณฑ์นี้มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ครีม โลชั่น เจล และเซรั่ม โดยแต่ละประเภทจะมีความเข้มข้นและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นการใช้มอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจึงเป็นเคล็ดลับจัดการความร่วงโรยของผิวหน้าและทำให้เมคอัพติดทน และเรียบเนียนกับผิวยิ่งขึ้น
ทำไมต้องใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์
โดยปกติผิวของเราสามารถผลิต “มอยส์เจอร์ไรเซอร์” ได้เองเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น หรือการที่เราต้องพบกับมลภาวะในชีวิตประจำวันที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การใช้ชีวิตประจำวันเช่นการอยู่ในห้องปรับอากาศที่มีความชื้นต่ำ หากไม่ดูแลอย่างเพียงพอ ผิวอาจแห้งแตกและรู้สึกไม่สบายได้ การใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นไม่เพียงช่วยเติมเต็มน้ำให้กับผิว แต่ยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการระเหยของน้ำ และป้องกันการถูกทำลายจากสารเคมีหรือมลภาวะต่างๆ การดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอสามารถช่วยลดริ้วรอยและรักษาสภาพผิวให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์ บวกกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ซึ่งในบางครั้งอาจมีการผสมสารที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นจึงทำให้ผิวอ่อนแอ การบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงต้องให้ความสำคัญในการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผิวได้
ส่วนผสมของ moisturizer
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นนั้นประกอบด้วยส่วนผสมหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภททำหน้าที่เฉพาะในการดูแลผิว ส่วนผสมหลักๆ ได้แก่ สารปิดกั้นการสูญเสียน้ำ สารที่ดึงดูดความชื้น และสารบำรุงอื่นๆ ในส่วนผสมของ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ คือ สารทาภายนอกที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หนังได้ อาจมีอยู่หลายรูป เช่น ครีม โลชั่น ขี้ผึ้ง เป็นต้น ส่วนประกอบโดยทั่วไปของมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีดังนี้
สารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusive)
สารปิดกั้นการสูญเสียน้ำทำหน้าที่สร้างชั้นบางๆ บนผิวหนังเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นอยู่ สารเหล่านี้รวมถึง วาสลีน (Petrolatum) น้ำมันแร่ (Mineral Oil) และซิลิโคนที่ช่วยในการสร้างผิวที่เรียบเนียน โดยการสร้างชั้นปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ สารปิดกั้นยังช่วยป้องกันไม่ให้สารระคายเคืองจากภายนอกเข้ามาทำร้ายผิวได้
สารที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant)
สารที่ดึงดูดความชื้นมีคุณสมบัติในการดึงน้ำจากสิ่งแวดล้อมหรือจากชั้นลึกของผิวขึ้นมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีความสามารถในการเก็บน้ำได้หลายเท่าของน้ำหนักตัวมันเอง กลีเซอรีน (Glycerin) ที่เป็นสารธรรมชาติที่ช่วยดึงดูดน้ำและให้ความชุ่มชื้น และยูเรีย (Urea) ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแล้วยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป
สารออกฤทธิ์ชนิดอื่นๆ
นอกจากสารปิดกั้นและสารดูดซับน้ำแล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยังประกอบด้วยสารอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ วิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน E ที่ช่วยซ่อมแซมและปกป้องผิว รวมถึงสารสกัดจากพืช เช่น ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) และชาเขียว (Green Tea) ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยบำรุงผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยอะไร
ผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นเพื่อให้สุขภาพผิวดี เพราะความชุ่มชื้นช่วยในการรักษาความมีชีวิตชีวา ความยืดหยุ่น และลดการเกิดริ้วรอย การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้นมีประโยชน์หลายประการ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง และป้องกันการทำร้ายจากสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี การดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการรักษาสุขภาพผิวให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
ประเภทของ มอยเจอร์ไรเซอร์
เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีหลายประเภทที่เหมาะกับสภาพผิว และความต้องการที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปจะแบ่งออกตามเนื้อสัมผัสและความเข้มข้น เพื่อให้สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของผิวและฤดูกาล เรามาดูประเภทต่างๆ กัน
มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม
เนื้อครีมบำรุงผิวมีความเข้มข้นสูง เนื้อสัมผัสหนาและหนัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ เนื้อครีมมักมีสารปิดกั้นการสูญเสียน้ำสูง เช่น วาสลีน หรือน้ำมันพืช ที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวได้ดี นอกจากนี้ ครีมยังเหมาะสำหรับการใช้ในช่วงฤดูหนาวหรือในพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง เนื่องจากสามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน
มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น
เนื้อโลชั่นมีความเข้มข้นน้อยกว่าครีม เนื้อสัมผัสบางเบาและซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาถึงผิวมัน หรือผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง โลชั่นสามารถใช้ได้ทุกวันและเหมาะสำหรับการบำรุงผิวในช่วงเวลาที่ไม่ต้องการความหนาหนัก โลชั่นบางประเภทอาจมีส่วนผสมของสารป้องกันแดด (SPF) เพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV
มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้ออิมัลชัน
เนื้ออิมัลชันเป็นเนื้อสัมผัสระหว่างครีมและโลชั่น มีความเข้มข้นปานกลางและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวผสมหรือผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นแต่ไม่ต้องการความรู้สึกเหนอะหนะ อิมัลชันมักจะมีสารที่ช่วยปรับสมดุลของน้ำและน้ำมันในผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดีและไม่มันเยิ้ม
มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล
เนื้อเจลมีเนื้อสัมผัสบางเบาและสดชื่น ซึมซาบเร็วและไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวที่เป็นสิวง่าย เจลมักมีส่วนผสมของสารดูดซับน้ำ เช่น กรดไฮยาลูรอนิก และสารสกัดจากพืชที่ช่วยปลอบประโลมผิว การใช้เจลเป็นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นแบบเบาสบายและไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น
มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเซรั่ม
เนื้อสัมผัสเบาและเข้มข้นไปด้วยสารบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นสูง เนื้อเซรั่มสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการบำรุงเฉพาะจุดหรือมีปัญหาผิวเฉพาะ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือผิวที่ขาดความยืดหยุ่น เซรั่มมักใช้เป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการบำรุงผิว และสามารถใช้ร่วมกับมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว
เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสม
การเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับผิวของคุณเป็นเรื่องสำคัญ โดยปกติคนส่วนมากมักจะเลือกจากความต้องการ หรือ คุณสมบัติที่ตรงกับปัญหาผิวของตนเอง บางคนต้องการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพียงเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจึงมองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก แต่สำหรับบางคนต้องการผลิตภัณฑ์แบบ All In One เช่นเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์และช่วยดูแลคลอบคลุมปัญหาผิวอื่นๆอีกด้วย แต่การเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้องที่สุดคือ “เลือกจากลักษณะสภาพผิว” เพราะผิวแต่ละแบบต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้องให้เลือกจากสภาพผิวเป็นหลัก เช่น ผิวมัน,ผิวผสม และผิวแห้ง
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวผสม
ผิวผสมเป็นผิวที่มีความมันและแห้งไปพร้อม ๆ กัน จุดสังเกตคือผิวบริเวณอื่นแห้งแต่จะมีความมันบริเวณ T-Zone หรือบริเวณหน้าผาก จมูก และคางนั่นเอง ผิวผสมในบางครั้งจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับผิวได้ค่อนข้างยาก แนะนำให้เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้อโลชั่นกึ่งครีม หรืออาจจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ 2 ชนิด เช่น บริเวณที่มีผิวแห้งใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เข้มข้น ส่วนบริเวณ T-Zone ที่ผิวมีความมันให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาเพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันจนทำให้เกิดสิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวแห้ง
ลักษณะผิวจะค่อนข้างแห้งและขาดน้ำ สังเกตจากเวลาทีไม่ทาครีมบำรุงอาจเกิดขุยหรือการแห้งลอกได้ เป้นผิวที่ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเวอรือย่างสม่ำเสมอ และควรเป็นมอยส์เจอร์ไรเวอร์สูตรเข้มข้นหรือมีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อเคลือบผิวไม่ให้ความชุ่มชื้นจากการทาครีมบำรุงระเหยออกจากผิว ซึ่งมอยส์เจอร์ไรเซอร์กลุ่มนี้จะมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและต้องการความชุ่มชื้นมาก ๆ
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน
ผิวมัน สังเกตได้ง่ายๆคือลักษณะผิวจะมีความมันวาวมีน้ำมันส่วนเกินมากกว่าปกติ และเกิดสิวได้ง่าย คนที่มีผิวมันจึงมักคิดว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนผิวมัน แต่อันที่จริงแล้วเป็นความคิดที่ผิด เพราะต่อให้คเป็นคนที่มีผิวมันมากแค่ไหนก็ตาม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ดี เพราะผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป อาจทำให้ผิวภายในขนาดความชุ่มชื้นด้วยเช่นกันคุณสำหรับคนผิวมันแนะนำให้ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ รูปแบบน้ำประเภทโลชั่นเหลว จะไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มหรือเกิดการอุดตันจนกลายเป็นสิวได้ในต่อมา
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวแพ้ง่าย
สำหรับแพ้ง่าย หลายคนอาจจะคิดว่าไม่สามารถใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวแพ้ง่าย ได้ แต่จริง ๆ แล้ว สามารถที่จะใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่หลักการในเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ moisturizer อาจจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสูงเป็นพิเศษ เพื่อที่จะไม่ทำร้ายผิวอันแสนบอบบางของคุณ แม้ผิวของคุณจะแพ้ง่ายแต่ก็ต้องการความชุ่มชื้นเฉกเช่นเดียวกัน
มอยเจอร์ไรเซอร์ ใช้ยังไง
การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้องสามารถช่วยให้ผิวของคุณได้รับประโยชน์มากที่สุด ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หลังการล้างหน้า ที่ผิวยังคงมีความชุ่มชื้น เพื่อช่วยในการล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาตอนไหน
การทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี การทามอยส์เจอไรเซอร์ในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ต่อไปนี้จะอธิบายถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ผิวของคุณได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
ทาตอนเช้า
การทามอยส์เจอไรเซอร์ในตอนเช้าช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับวันใหม่ ก็เป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญ และก็มีขั้นตอนที่พยายามอย่าขาด เพราะจะทำให้การบำรุงผิวไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่วนจะมีอะไรบ้างไปชมกันได้เลย
ขั้นตอนการล้างหน้า
เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อล้างสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินที่สะสมตลอดคืน
ขั้นตอนลงโทนเนอร์
ใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลผิวและเตรียมความพร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนทาเซรั่ม หรือ เอสเซนส์
เซรั่มหรือเอสเซนส์ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงสูงควรทาเป็นขั้นตอนต่อมา เพื่อเสริมสร้างการบำรุงลึกเข้าสู่ผิว
ทามอยส์เจอไรเซอร์
หลังจากใช้เซรั่มแล้ว ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำ
ทาครีมกันแดด
ขั้นตอนสุดท้ายคือการทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่สามารถทำร้ายผิวและก่อให้เกิดริ้วรอยได้
ทาตอนเย็น
ในช่วงเย็นหรือก่อนนอน เป็นเวลาที่ผิวมีโอกาสได้พักผ่อนและฟื้นฟู การบำรุงผิวในช่วงนี้จึงเน้นไปที่การซ่อมแซมและเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง วิธีการที่แนะนำคือ:
หลังการอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำ ผิวจะอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการซึมซาบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว การทามอยส์เจอไรเซอร์หลังอาบน้ำจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น
เมื่อผิวรู้สึกแห้งหรือตึง
หากรู้สึกว่าผิวแห้งหรือตึง สามารถทามอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มเติมเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
เคล็ดลับเพิ่มเติม
แม้จะแนะนำวิธีการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ไปแล้ว แต่ก็ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ต่อไปนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้างไปอ่านพร้อมกันได้เลย
ทาในขณะที่ผิวยังชื้น
การทาผลิตภัณฑ์ในขณะที่ผิวยังชื้นเล็กน้อยหลังการล้างหน้า หรืออาบน้ำจะช่วยให้มอยส์เจอไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น ผิวมันควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทิ้งความมัน ผิวแห้งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นสูง
การดูแลผิวอย่างถูกวิธีและใช้มอยส์เจอไรเซอร์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและมีความยืดหยุ่นได้ยาวนาน ทั้งนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณเอง
คำถามที่พบบ่อย
มาถึงในส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ “คำถามที่ถามบ่อย” เป็นคำถามที่ถูกรวบรวมไว้ โดยมักจะเป็นคำถามที่ถูกเอ่ยถึงในหัวข้อสนทนามากที่สุด จะมีคำถามอะไรบ้างไปชมพร้อมกันได้เลย
มอยเจอร์ไรเซอร์ กับ ครีม ทาอะไรก่อน
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวควรเรียงลำดับตามความเบาและความหนักของเนื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์มักจะบางเบากว่าครีมบำรุงผิวที่มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นควรทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อน จากนั้นจึงทาครีมบำรุงผิวตามเพื่อให้เกิดการปิดล็อกความชุ่มชื้นและสารบำรุงได้อย่างเต็มที่ จึงจะเกิดประสิทธิภาสูงสุดต่อผิวหน้าของคุณ
มอยเจอร์ไรเซอร์ กับ เซรั่ม ทาอะไรก่อน
เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบา และมีความเข้มข้นของสารบำรุงสูง ควรทาเซรั่มก่อนเพื่อให้สารบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี หลังจากนั้นจึงทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อปิดล็อกความชุ่มชื้นและเสริมสร้างการบำรุง
มอยเจอร์ไรเซอร์ กับ กันแดด ทาอะไรก่อน
การทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในตอนเช้า ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ก่อน จากนั้นจึงทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และควรอยู่บนผิวเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรทาหลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงอื่นๆ เรียบร้อยแล้ว
ไฮยา กับ มอยเจอร์ไรเซอร์ ทาอะไรก่อน
ไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ Hyaluronic Acid หรือที่หลายคนมักเรียกสั้นๆ ว่า “ไฮยา” เป็นสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและมักจะพบในเซรั่ม ไฮยาควรทาก่อนมอยส์เจอไรเซอร์ เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ลึก เมื่อทามอยส์เจอไรเซอร์ตามจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นที่ไฮยาลูรอนิก แอซิดได้นำมาไว้ในผิว
สรุป
มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นส่วนสำคัญของการดูแลผิวที่ทุกคนควรจะต้องมีติดไว้ ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นที่เหมาะสมของผิว ป้องกันผิวแห้ง และปรับปรุงผิวให้ดีขึ้น โดยการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ โดยต้องพิจารณาตามประเภทผิว และปัญหาผิวที่คุณเผชิญอยู่ ในทางกลับกัน การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่เหมาะกับผิวของคุณอาจทำให้ผิวมีปัญหาเพิ่มขึ้น และการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ถูกต้องสามารถช่วยให้ผิวของคุณได้รับประโยชน์มากที่สุด ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หลังการล้างหน้า และหากคุณมีการสัมผัสกับแสงแดด ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติการป้องกันแสงแดด แต่สำหรับบางคนอาจจะมี ครีมกันแดด อยู่แล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ ยังเป็นไอเท็มห้ามพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวของตนดูดีและมีชีวิตชีวาตลอดเวลาอีกด้วย
REF