สารบัญ
สิวเสี้ยน คืออะไร
สิวเสี้ยน เป็นปัญหาผิวพรรณที่เกิดจากรูขุมขนที่อุดตันด้วยเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันจากต่อมไขมัน มักพบในบริเวณที่ผิวมีความมันสูง เช่น จมูก หน้าผาก และคาง สิวเสี้ยนแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ จุดดำ ที่มีหัวเปิดสู่ผิวหน้าและเกิดจากการออกซิไดซ์ของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังตาย และ จุดขาว ที่เป็นลักษณะปิดทับด้วยผิวหนังทำให้เห็นเป็นสีขาวเล็กๆ ทั้งสองประเภทนี้มักไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ
สิวเสี้ยนเยอะตรงจมูก ใช้อะไรดี
เชื่อว่าหลายคนอาจจะพบเจอปัญหาเดียวกัน นั่นก็คือปัญหา สิวเสี้ยนเยอะตรงจมูก อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สิวเสี้ยนเกิดจากการสะสมของไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วภายในรูขุมขน ซึ่งมักจะเห็นเป็นจุดดำๆ บนพื้นผิวผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณจมูกที่มีรูขุมขนที่ค่อนข้างโปร่งและมีน้ำมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ ของใบหน้า การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการดูแลสิวเสี้ยนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำจัดสิวเสี้ยน
การกำจัดสิวเสี้ยนไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้าดูสะอาดและสุขภาพดี แต่ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวอื่นๆ เช่น สิวอักเสบ ต่อไปนี้คือวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดสิวเสี้ยน
การทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
การใช้โฟมล้างหน้าหรือคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) หรือกรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก ซึ่งสามารถช่วยลดการอุดตันและการเกิดสิวเสี้ยนได้ เน้นการล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง เช้าและเย็น เพื่อควบคุมความมันและทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอจะสามารถช่วยเพิ่มปรสิทธิภาพในการลดการเกิดสิวเสี้ยนได้ส่วนหนึ่ง
ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นวิธีที่ง่าย และรวดเร็วในการลอกเอาสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขน วิธีการนี้ควรใช้เป็นครั้งคราวเนื่องจากการใช้งานบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคือง หลังจากใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแล้ว ควรล้างหน้าอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกใดๆ ตกค้างอยู่อีก อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้ในอนาคต
การใช้มาส์กหน้า
มาส์กหน้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ควรใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอที่มีส่วนผสมของดินสอพองหรือชาร์โคลสามารถช่วยดูดซับน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้ดีเยี่ยม การใช้มาส์กหน้าประเภทนี้สัปดาห์ละครั้งจะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดและลดการเกิดสิวเสี้ยน
การใช้ผลิตภัณฑ์ AHA/BHA
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Alpha Hydroxy Acids (AHA) หรือ Beta Hydroxy Acids (BHA) สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังตายและละลายน้ำมันในรูขุมขนได้ ซึ่งช่วยให้รูขุมขนสะอาดและลดการเกิดสิวเสี้ยนใหม่
การดูแลรักษาความสะอาดเครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้า
เครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าสามารถทำร้ายผิวได้เช่นเดียวกัน หลังจากใช้แล้วไม่ล้างทำความสะอาดให้ดี สามารถเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและน้ำมันที่สามารถอุดตันรูขุมขนได้ ควรทำความสะอาดแปรงและฟองน้ำแต่งหน้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเหล่านี้เข้าไปอุดตันในรูขุมขนและส่งผลให้เกิดสิวเสี้ยน
หากสาวๆ ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณกำจัดสิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดโอกาสในการกลับมาเกิดใหม่ของสิวเสี้ยนบนผิวหน้าคุณได้อย่างแน่นอน
กำจัดสิวเสี้ยน ด้วยวิธีธรรมชาติ
สิวเสี้ยน ปัญหาสิวที่หลายๆ คนเจอบ่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณ สิวที่จมูก และคาง มักจะเจอสิวเสี้ยนบ่อยมากๆ วันนี้ AquaPlus ได้รวบรวมสูตรกำจัดสิวเสี้ยนจากธรรมชาติ หาง่ายรักษาได้จริง มาให้ทุกคนได้รักษาสิวเสี้ยนให้หายสิ้น จะมีสูตรไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ
1.มะนาว
มะนาว เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดูแลผิวพรรณ มะนาวไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสเท่านั้น ด้วยความที่มะนาวเป็นกรดธรรมชาติที่ช่วยจัดการเรื่องสิวได้เป็นอย่างดี ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไปและช่วยทำความสะอาดรูขุมขน มะนาวจึงเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ดีในการกำจัดสิวเสี้ยน ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวเสี้ยนด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนและการต่อสู้กับแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
ประโยชน์ของมะนาวในการรักษาสิวเสี้ยน
- ประโยชน์ของมะนาวในการรักษาสิวเสี้ยนมะนาวมีสรรพคุณที่สามารถช่วยรักษาและป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนได้อย่างได้ผลดี เนื่องจากมีวิตามิน C และกรดซิตริกที่ช่วยดูแลผิวให้สุขภาพดี
- มะนาวมีกรดซิตริกที่ช่วยในการละลายน้ำมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน ทำให้สิวเสี้ยนและสิวอื่นๆ ลดลงได้
- มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสและลดรอยดำจากสิว วิตามิน C ยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพผิว
- มะนาวช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดสิวเสี้ยน
- มะนาวมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและบรรเทาความแดงของผิวจากสิว
วิธีใช้มะนาวในการรักษาสิวเสี้ยน
- บีบน้ำมะนาว 1 ส่วนผสมน้ำสะอาดลงไปอีกนิดนึง เพื่อเจือจางความเป็นกรด
- ทาลงบนหน้าตรงบริเวณสิวเสี้ยน ทิ้งเอาไว้ 1 คืน
- ตื่นเช้ามาก็ทำความสะอาดหน้าตามปกติ
การใช้มะนาวในการดูแลผิวหน้าเพื่อลดสิวเสี้ยนและปรับปรุงสภาพผิวเป็นวิธีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีผิวที่แห้งมาก ควรทดลองบนบริเวณผิวที่เล็กก่อนหรือปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้น
2.นมสด กับ เจลาติน
การใช้นมสดและเจลาตินในการทำมาสก์หน้าเป็นวิธีธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในการกำจัดสิวเสี้ยน และช่วยทำความสะอาดผิวหน้าให้ล้ำลึก นมสดมีกรดแลคติกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป ในขณะที่เจลาตินช่วยในการลอกเอาสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้เป็นอย่างดี การผสมผสานอย่างลงตัวของทั้งสองส่วนผสมนี้จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณสะอาดและสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนแน่นอน
ประโยชน์ของนมสดสำหรับผิว
นมสดเป็นส่วนผสมที่อุดมไปด้วยกรดแลคติก วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อการบำรุงผิว ซึ่งช่วยในการ
- กรดแลคติกในนมสดช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังตายแล้ว และช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
- นมสดช่วยให้ผิวหน้านุ่มนวลและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- วิตามินและแร่ธาตุในนมสดช่วยลดริ้วรอยและรอยหมองคล้ำบนผิวหน้า
ประโยชน์ของเจลาตินสำหรับผิว
เจลาตินเป็นสารที่ได้จากคอลลาเจน มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในการดูแลผิวหน้าได้เป็นอย่างดี
- เจลาตินช่วยลอกเอาสิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนออกมาได้เป็นอย่างดี
- การใช้เจลาตินจะช่วยให้ผิวหน้ากระชับและเรียบเนียนขึ้น
- เจลาตินมีคอลลาเจนที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว
วิธีใช้นมสด กับ เจลาติน ดูแลสิวเสี้ยน
- ผสมนมสดและเจลาตินเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1:1 แล้วเอาเข้าไมโครเวฟให้เจลาตินละลาย
- ทาตรงบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน ไม่ต้องทาหนามาก ทาบาง ๆ ก็พอค่ะ
- ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วลอกออก
สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาพร้อมเจลาตินที่แห้ง ส่วนนมสดจะช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นได้ค่ะ
3.ยาสีฟัน กับ น้ำมันมะพร้าว
การใช้ยาสีฟันและน้ำมันมะพร้าวเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาผิวพรรณแบบบ้านๆ ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในการลดการอักเสบของสิวและการดูแลสิวเสี้ยน ยาสีฟันมีสารที่ช่วยในการต่อต้านแบคทีเรียและลดการอักเสบ ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวและต่อต้านเชื้อราและแบคทีเรีย การผสมผสานสองส่วนผสมนี้สามารถช่วยลดสิวเสี้ยนและปรับปรุงสุขภาพผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของยาสีฟันสำหรับผิว
ยาสีฟันไม่ได้เป็นเพียงสำหรับทำความสะอาดฟันเท่านั้น แต่ยังมีสารที่สามารถช่วยลดการอักเสบและแบคทีเรียบนผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีสิว
ประโยชน์ของยาสีฟันสำหรับผิว
ยาสีฟันไม่ได้เป็นเพียงสำหรับทำความสะอาดฟันเท่านั้น แต่ยังมีสารที่สามารถช่วยลดการอักเสบและแบคทีเรียบนผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณที่มีสิว
- ยาสีฟันมีสารประกอบที่ช่วยลดการอักเสบและความแดงของสิว ทำให้สิวเล็กลงและหายเร็วขึ้น
- ยาสีฟันมีสารต้านแบคทีเรียที่ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของสิว
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสำหรับผิว
น้ำมันมะพร้าวเป็นหนึ่งในน้ำมันธรรมชาติที่มีคุณสมบัติมากมายสำหรับการดูแลผิว ทั้งในการบำรุงและการต้านเชื้อโรค จนมีผลิตภัณฑ์มากมายถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อดูแลผิวเลยทีเดียว
- มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริกที่ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยป้องกันการเกิดสิวและการอักเสบของผิว
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น น้ำมันมะพร้าวเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ดี เพราะช่วยล็อคความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวนุ่มและลดการเกิดริ้วรอย
การใช้ยาสีฟันและน้ำมันมะพร้าวสำหรับดูแลผิวเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางควรทดลองใช้ส่วนผสมน้อยๆ ก่อนหรือปรึกษาแพทย์หากไม่แน่ใจ การใช้สูตรนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งสามารถช่วยลดสิวเสี้ยนและปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้
วิธีใช้ยาสีฟัน กับ น้ำมันมะพร้าวดูแลสิวเสี้ยน
- เอายาสีฟันผสมกับน้ำมันมะพร้าว
- จากนั้นใช้แปรงสีฟันปาดส่วนผสมขึ้นมาทาตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยนแล้วถูเบา ๆ ประมาณ 2-3 นาที ให้จับแล้วรู้สึกว่าสิวเสี้ยนที่เคยมีหลุดออกหมดแล้ว
- ก็ให้เช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น
เพียงเท่านี้ก็สามารถสครับสิวเสี้ยนให้หลุดออกไปได้อย่างนุ่มนวลแล้วล่ะค่ะ
อ่านเพิ่มเติม : เป็นสิว แต่ไม่ต้องพึ่งหมอด้วย 10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ
4.น้ำตาลทราย + น้ำผึ้ง
น้ำตาลทรายและน้ำผึ้งเป็นส่วนผสมธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดูแลผิวพรรณ ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มนวลและชุ่มชื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดและกำจัดสิวเสี้ยนด้วย ทั้งน้ำตาลทรายและน้ำผึ้งมีคุณสมบัติที่สามารถทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกและช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น
ประโยชน์ของน้ำตาลทรายสำหรับผิว
น้ำตาลทรายเป็นสารสครับที่ยอดเยี่ยมสำหรับผิวหน้า เนื่องจากมีประโยชน์ในการขัดผิวที่อ่อนโยน ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วแ ละเปิดรูขุมขนที่อุดตัน ทำให้ผิวหน้าดูสะอาดและกระจ่างใสมากขึ้น
ประโยชน์ของน้ำผึ้งสำหรับผิว
น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในสารบำรุงผิวที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งจากธรรมชาติ ด้วยคุณสมบัติทางการแพทย์และการบำรุงที่หลากหลาย น้ำผึ้งมีสรรพคุณในการต่อต้านแบคทีเรียและช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่น
วิธีใช้น้ำตาลทราย กับ น้ำผึ้งดูแลสิวเสี้ยน
- นำน้ำตาลทรายมาผสมกับน้ำผึ้ง
- แล้วสครับลงบนบริเวณผิวหน้าตรงที่มีสิวเสี้ยน สครับเบา ๆ อย่าขัดถูหน้ารุนแรง เพราะอาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดการอักเสบและรูขุมขนกว้างขึ้นได้
- สครับจนจับตรงบริเวณสิวเสี้ยนแล้ว รู้สึกว่าสิวเสี้ยนหลุดออกหมดแล้ว ก็ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก
การใช้น้ำตาลทรายและน้ำผึ้งเป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวหน้า ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดและลดปัญหาสิวเสี้ยน พร้อมทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นและความนุ่มนวลให้กับผิว การใช้สูตรนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5.เบคกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดาหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) เป็นสารที่พบได้ทั่วไปในครัวเรือน มักใช้ในการทำขนมปัง แต่นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมใช้ในการดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะในการลดและกำจัดสิวเสี้ยน ด้วยคุณสมบัติในการทำความสะอาดและการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาต่อผิวหน้า
- เบกกิ้งโซดามีลักษณะเป็นผงเม็ดละเอียดที่ช่วยขัดและลบเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูสดใสและมีสุขภาพดี
- เบกกิ้งโซดาช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน โดยช่วยละลายสิ่งสกปรกและน้ำมันที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขน
- เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติที่ช่วยลดการเกิดแบคทีเรียบนผิวหน้า ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่
- เบกกิ้งโซดาช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล ลดความมันและช่วยให้ผิวหน้ามีสภาพที่ดีขึ้น
วิธีใช้เบคกิ้งโซดาดูแลสิวเสี้ยน
- นำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำสะอาดให้เป็นเนื้อข้น ๆ
- ทาลงบนผิวหน้าตรงที่มีสิวเสี้ยน
- ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที
- แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก
การใช้เบกกิ้งโซดาในการดูแลผิวหน้าเป็นวิธีที่ประหยัดและได้ผลดีในการลดสิวเสี้ยนและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้เบกกิ้งโซดาอย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้หากใช้บ่อยเกินไป ควรทดสอบบนผิวที่มีพื้นที่เล็กก่อนใช้ทั่วหน้า และใช้ไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ผิวหน้าของคุณกฺ็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
6.ข้าวสาร
ข้าวสารไม่เพียงเป็นอาหารหลักของคนไทย แต่ยังมีประโยชน์ในการดูแลผิวพรรณ โดยเฉพาะในการลดและป้องกันสิวเสี้ยน ข้าวสารมีสารประกอบที่ช่วยในการล้างและผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ลดความมันบนผิวหน้า และช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตัน
ประโยชน์ของข้าวสารต่อผิวหน้า
- ข้าวสารบดละเอียดสามารถใช้เป็นสครับที่ขัดผิวได้อย่างอ่อนโยน ช่วยลดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น
- ข้าวสารมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำมันบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้ามีความมันน้อยลงและช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยน
- ข้าวสารช่วยในการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่ช่วยบำรุงผิว
วิธีใช้ข้าวสารดูแลวสิวเสี้ยน
- นำข้าวสารแช่ลงในน้ำเปล่าประมาณครึ่งวัน หรือ 4-5 ชั่วโมง ให้ข้าวสารอิ่มน้ำและอ่อนตัวลง ไม่แข็ง
- จากนั้นนำมาบดจนกึ่งเละกึ่งป่น ๆ แล้วนำมาสครับขัดเบา ๆ ตรงบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน
- ขัดจนสิวเสี้ยนหลุดออกหมดแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การใช้ข้าวสารในการดูแลผิวหน้าเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัด สามารถช่วยให้ผิวของคุณลดปัญหาสิวเสี้ยนและดูสุขภาพดีขึ้น จากการใช้วัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
7. โยเกิร์ต กับ น้ำมันมะกอก
สูตรนี้เป็นสูตรสุดฮิตเช่นกัน เพราะโยเกิร์ตจะช่วยในการกำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวและช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้ด้วย ส่วนน้ำมันมะกอกช่วยบำรุงผิวให้อิ่มเด้งสวยใส
ประโยชน์ของโยเกิร์ตสำหรับผิว
โยเกิร์ตธรรมชาติมีกรดแลคติกมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวตายแล้ว และยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของผิวให้เป็นปกติ ส่งผลให้ผิวสะอาด ลดการอุดตันของรูขุมขนที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบและสมานผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และทำให้ผิวนุ่มขึ้น เรียกว่าสรรพคุณรอบตัวจริงเชียว
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกสำหรับผิว
น้ำมันมะกอกมีวิตามิน E และกรดไขมันที่จำเป็นอยู่ในปริมาณสูง ซึ่งช่วยให้ผิวหนังได้รับการบำรุงและฟื้นฟูจากความเสียหาย น้ำมันมะกอกยังช่วยให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื่น ลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้า และเป็นตัวช่วยที่ดีในการดูแลผิวที่มีสิวเสี้ยน
การผสมผสานระหว่างโยเกิร์ตและน้ำมันมะกอกไม่เพียงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการดูแลและลดปัญหาสิวเสี้ยน ทั้งสองส่วนผสมนี้มีคุณสมบัติเฉพาะที่ช่วยบำรุงผิวและปรับปรุงสุขภาพผิวได้อย่างเห็นผล
สูตรมาสก์หน้าโยเกิร์ตและน้ำมันมะกอก
ส่วนผสม: โยเกิร์ตธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ และ น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา
วิธีการคือโยเกิร์ต กับ น้ำมันมะกอก
- ผสมส่วนผสม ในชามเล็ก ๆ ผสมโยเกิร์ตและน้ำมันมะกอกเข้าด้วยกันจนเข้ากันดี
- การทามาสก์ ล้างหน้าให้สะอาดและทาผสมโยเกิร์ตและน้ำมันมะกอกลงบนผิวหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
- การทิ้งไว้ให้มาสก์ออกฤทธิ์ ทิ้งมาสก์ไว้บนผิวหน้าประมาณ 15-20 นาที
- ล้างออก ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน
การใช้มาสก์หน้านี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งสามารถช่วยลดสิวเสี้ยนและปรับปรุงสภาพผิวให้ดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวหน้านุ่มนวลและชุ่มชื้น ทำให้โยเกิร์ตและน้ำมันมะกอกเป็นคู่หูที่ดีเยี่ยมสำหรับการดูแลผิวที่มีปัญหาสิวเสี้ยน
8.แตงกวา
แตงกวาเป็นผลไม้ที่คนไทยใช้มานานแสนนาน สามารถย้อนไปจนถึงรุ่นแม่ได้เลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติหลายอย่างในการดูแลผิวพรรณ รวมถึงการช่วยจัดการกับปัญหาสิวเสี้ยน แตงกวามีน้ำมาก ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและสดชื่น แต่คุณสมบัติหลักที่ทำให้แตงกวาเป็นที่นิยมในการดูแลผิวคือความสามารถในการลดความมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน
คุณสมบัติแตงกวาช่วยเรื่องสิวเสี้ยน
- การกระชับรูขุมขน แตงกวามีคุณสมบัติที่ช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง การใช้แตงกวาบนผิวหน้าสามารถช่วยลดการสะสมของไขมันและสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน
- การลดน้ำมันบนผิวหน้า แตงกวาช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า การใช้แตงกวาเป็นประจำจะช่วยให้ผิวหน้ามีความมันน้อยลง ทำให้ลดโอกาสในการเกิดสิวเสี้ยน
- การให้ความชุ่มชื้น แตงกวามีส่วนผสมสูงของน้ำ ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณได้รับการชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ผิวที่มีความชุ่มชื้นจะมีสุขภาพดี ลดการอุดตันของรูขุมขนและการเกิดสิวเสี้ยน
วิธีใช้แตงกวาในการดูแลสิวเสี้ยน
- หั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ แล้ววางบนหน้าที่ล้างสะอาด ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
- ปั่นแตงกวาเป็นน้ำ ใช้สำลีชุบน้ำแตงกวาแล้วเช็ดหน้าเป็นประจำทุกเช้า-เย็น ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดและสดชื่น
- แช่แตงกวาในตู้เย็นก่อนใช้ การใช้แตงกวาเย็นๆ จะช่วยให้รูขุมขนหดตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการกระชับผิว
สูตรกำจัดสิวเสี้ยนจากธรรมชาติที่เราเอามาฝากกันวันนี้ ทุกคนสามารถเอาไปใช้กันได้เลยนะคะ รับรองว่าสิวเสี้ยนหาย หน้าใส ผิวเนียนแน่นอน
เคล็ดลับ: หลังจากที่ทำการลอกหรือสครับสิวเสี้ยนแล้ว รูขุมขนของเราจะถูกเปิด ซึ่งจะทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายจนอาจทำให้เกิดสิวได้อีก ดังนั้นหลังจากลอกและสครับสิวเสี้ยนแล้วเราควรทำการปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็น โดยนำน้ำที่แช่เย็นหรือน้ำสะอาดผสมน้ำแข็งมาใส่ชามหรือกาละมัง จากนั้นนำผ้าสะอาดมาชุบน้ำเย็น นำผ้าที่ชุบน้ำเย็นแล้วนั้นมาคลุมบนหน้าสักพักประมาณ 5-10 นาที น้ำเย็นจะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงและถูกปิด ซึ่งจะทำให้ห่างไกลจากสิวเสี้ยนและการอุดตันที่อาจก่อให้เกิดสิวอื่น ๆ อย่าง สิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือ สิวเม็ดเล็กๆ ได้
วิธีลอกสิวด้วยไข่
แถมไปด้วยวิธีการยอดฮิตมากที่สุด การใช้ไข่ หรือ ไข่ขาว ในการลอกสิวเสี้ยนเป็นวิธีธรรมชาติที่ได้รับความนิยม ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและการใช้งานที่สะดวก ไม่แปลกที่หากคุณมองหาวิธีแก้ไขปัญหาสิวเสี้ยนก็มักจะเจอวิธีการนี้เป็นอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย และเราก็มีวิธีมาฝากอีกด้วย
ส่วนผสมและขั้นตอน
- แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง ใช้ไข่ขาวเท่านั้นในการทำมาส์กหน้า
- ทาไข่ขาวลงบนบริเวณที่มีสิวเสี้ยน โดยเฉพาะบริเวณจมูกและรอบๆ จมูก
- วางกระดาษทิชชู่บนไข่ขาว ทิ้งไว้จนกว่าไข่ขาวจะแห้งสนิท
- ลอกกระดาษทิชชู่ออกอย่างช้าๆ เราจะสามารถมองเห็นสิวเสี้ยนติดออกมากับกระดาษ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนเป็นปัญหาผิวพรรณที่หลายคนต้องเผชิญ และมีคำถามมากมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผิวนี้ ต่อไปนี้คือคำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับสิวเสี้ยนพร้อมคำตอบที่จะช่วยให้เข้าใจและสามารถดูแลผิวของคุณได้ดียิ่งขึ้น
สิวเสี้ยน คืออะไร?
สิวเสี้ยนเป็นชนิดหนึ่งของสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนบนผิวหนัง ทำให้เกิดจุดดำหรือจุดขาวที่ผิวหน้า สิวเสี้ยนเกิดขึ้นได้เมื่อเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันบนผิวหนัง (เซบัม) รวมตัวกันอุดตันรูขุมขน จุดดำที่ปรากฏบนผิวหน้าเกิดจากการที่น้ำมันและเซลล์ผิวหนังตายที่อุดตันรูขุมขนสัมผัสกับอากาศและเกิดการออกซิไดซ์
อาการของสิวเสี้ยน คืออะไร
จุดดำหรือจุดขาวบนผิวหนัง
ผิวที่ดูหยาบกร้าน
รูขุมขนที่ขยายใหญ่
สาเหตุของสิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ที่สำคัญได้แก่
การผลิตน้ำมันมากเกินไป
ผิวหนังที่ผลิตน้ำมันหรือเซบัมมากเกินไปจะเพิ่มโอกาสให้รูขุมขนถูกอุดตัน
การสะสมของเซลล์ผิวหนังตาย
เซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ถูกกำจัดออกอย่างเหมาะสมอาจสะสมและอุดตันรูขุมขน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่นหรือระหว่างประจำเดือน อาจทำให้ผิวหนังผลิตน้ำมันมากขึ้น
การใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
การใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้าของคุณอาจทำให้เกิดการอุดตันและนำไปสู่สิวเสี้ยน
สรุป
การใช้วิธีธรรมชาติในการรักษาสิวเสี้ยนและปรับปรุงสภาพผิวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดี เมื่อใช้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ผิวหน้าของคุณจะสามารถกลับมาดูสดใสและสุขภาพดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และห้ามลืมก่อนใช้ส่วนผสมใดๆ บนผิวหน้าทั้งหมด ควรทดสอบบนบริเวณเล็กๆ ของผิวก่อน เพื่อดูว่ามีปฏิกิริยาแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ รวมไปถึงการใช้งานที่เหมาะสมกับปริมาณ