สารบัญ
ขึ้นปีใหม่ ปี 2025 แต่ก็ยังเชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนคงเคยมีประสบการณ์ที่ต้องพบเจอกับ ปัญหาสิวๆ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ปะปนกันไปในปีที่ผ่านมา แต่จะมีอยู่สิวนึงที่จะทำให้คุณปวดหัวมากกว่าชาวบ้าน ก็คือ สิวหัวช้าง‘ นับเป็นหนึ่งในประเภทสิวที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่เป็นอย่างมาก เพราะมีลักษณะอักเสบรุนแรง เจ็บ และอาจทิ้งรอยแผลเป็นที่เด่นชัดได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี โดยในบทความนี้จะอธิบายรายละเอียด พร้อมตอบคำถามยอดฮิต เช่น สิวหัวช้างไม่มีหัว เกิดจากอะไร และ สิวหัวช้างรักษายังไง เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนดูแลผิวได้อย่างถูกต้อง แถมยังมีขนาดใหญ่เห็นได้อย่างชัดเจน จนบางครั้งเราไม่อยากออกจากบ้านกันเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นสิวที่เป็นตาการลดความมั่นใจชั้นดี ซึ่งปัญหาสิวเราสามารถป้องกันได้หากเรามีความเข้าใจ วันนี้ AquaPlus มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกันค่ะ ทั้งสาเหตุการเกิด การป้องกันไม่ให้เกิดและการดูแลรักษา และวิธีการรักษาไม่ให้ทิ้งรอยแผลเป็น
สิวหัวช้างเป็นยังไง
สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nodulocystic Acne หรือบางครั้งเรียกว่า Severe Nodular Acne เป็นสิวประเภทที่มีความรุนแรงมากที่สุดชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นก้อนอักเสบขนาดใหญ่ (nodules หรือ cysts) ที่ฝังลึกอยู่ในชั้นผิวหนัง อาจมีการรวมตัวของตุ่มหนองและพังผืดที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก สำหรับคนไทย มักเรียกสิวชนิดนี้ว่า สิวหัวใหญ่ หรือ ฝีหัวช้าง ซึ่งสามารถปรากฏในรูปแบบที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้ ลักษณะเด่นของสิวหัวช้างคือ เป็นสิวที่บวมแดงขนาดใหญ่ หากใช้นิ้วกดจะรู้สึกถึงเม็ดไตแข็ง ๆ ใต้ผิวหนัง และมักจะเจ็บอย่างมาก ในกรณีที่สิวมีหัว อาจพบหัวตั้งแต่ 1-3 หัวในสิวเม็ดเดียว โดยสิวประเภทนี้มักจะขยายตัวอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาขอบเขตได้อย่างแน่นอน จัดเป็นสิวที่รักษายาก สร้างความเจ็บปวดอย่างมาก และมักทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมลึกไว้บนผิวหน้า หากมีการบีบ แกะ หรือเค้นสิว อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่ยากต่อการรักษา นี่คือเหตุผลว่าทำไมสิวหัวช้างจึงเป็นปัญหาผิวที่ใครหลายคนหวาดกลัว ในช่วงเริ่มต้นของการเกิด มักเริ่มจากตุ่มเล็ก ๆ ที่รู้สึกคันหรือเจ็บ เมื่อเวลาผ่านไป สิวจะขยายตัวจนกลายเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดความไม่สบายผิวอย่างมาก หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง ปัญหานี้อาจกลายเป็นฝันร้ายของคนรักผิว เพราะสิ่งที่หลงเหลือหลังจากสิวหายไป คือ “รอยแผลเป็น” ที่ยากจะลืมเลือน
หลายคนมักจะมีความเข้าใจแบบผิดๆ มองว่าสิวชนิดนี้เป็น “ฝี” แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะอันเนื่องมาจากมันมีขนาดใหญ่มีความคล้ายคลึงกับกับฝี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฝี กับ สิว เป็นโรคคนละโรคกันเลย โดย ฝี เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่ได้เกิดจากรูขุมขนอุดตันเป็นหลักเหมือนกับสิวนั่นเอง
สิวหัวช้างเกิดจากอะไร
การอักเสบรุนแรงอาจมาจากหลายปัจจัย ทั้งฮอร์โมน ความเครียด การดูแลผิวไม่เหมาะสม และการแพ้ผลิตภัณฑ์บางชนิด ยิ่งถ้าต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ผสมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบคทีเรีย ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิด การอุดตันสะสมและการอักเสบในระดับลึกขึ้นไปได้อีก
ฮอร์โมน
ในวัยรุ่นมักจะเจอสิวประเภทนี้มากกว่าคนทุกวัย เพราะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งในผู้ชายจะเป็นสิวได้ง่ายกว่า เพราะในผู้ชายจะมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) สูง ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง ฮอร์โมนคือสารเคมีที่สร้างขึ้นในร่างกายโดยต่อมต่างๆ ซึ่งมีบทบาทในการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์และอวัยวะต่างๆ เพื่อควบคุมหลายๆ ฟังก์ชันภายในร่างกาย ฮอร์โมนมีหลากหลายชนิดและแต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะตัว และฮอร์โมนยังคงมีบทบาทสำคัญในการเกิดสิวหัวช้าง โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่าแอนโดรเจน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเพิ่มการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในร่างกาย โดยที่แอนโดรเจน เป็นกลุ่มของฮอร์โมนเพศชายที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะทางเพศและการทำงานของร่างกาย ซึ่งหนึ่งในฮอร์โมนแอนโดรเจนที่รู้จักกันดีคือเทสโทสเตอโรน
การอุดตัน
หากบนผิวหน้ามีความมันและเกิดการอุดตันมาก ก็จะทำให้เกิดสิวลักษณะนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะน้ำมันบนใบหน้าจะทำให้ฝุ่นและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวเกาะรวมกันและเข้าไปอุดตันในรูขุมขนจนทำให้ผิวอักเสบและเกิดสิว
ล้างหน้าไม่สะอาด
อีกหนึ่งปัจจัยหลัก ๆ ในการเกิดสิวประเภทนี้คือ การล้างหน้าไม่สะอาด หรือบางครั้งที่เรารู้สึกขี้เกียจและไม่อยากล้างหน้า นอนหลับไปโดยไม่ได้ทำความสะอาดหน้าเลย ก็จะทำให้เกิดการสะสมและอุดตันของสิ่งสกปรก ทำให้เกิดสิวตามมาได้ในภายหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก แนะนำว่าก่อนที่จะนอนควรจะต้องล้างหน้า ทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ โฟมล้างหน้า ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา
ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
การดื่มน้ำน้อยเกินไปและพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น เพราะผิวจะขาดความชุ่มชื้น ทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น จนก่อให้เกิดการอุดตันของสิว อีกทั้งความเครียดยังทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น มีน้ำมันออกมามากขึ้น จนทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย
ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมากเกินไป
หนึ่งในสาเหตุของการเกิดอาจจะเป็น การทำงานของต่อมไขมันที่ทำการผลิตไขมันออกมามากเกินความจำเป็น ซึ่งสารที่ผลิตก็คือเจ้า ซีบัม หรือ Sebum เป็นสารที่มีความมันซึ่งช่วยปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว มันผสมกับโมเลกุลไขมันที่เรียกว่าลิพิด หรือ Lipids เพื่อสร้างชั้นเคลือบป้องกันบนผิวหนัง ต่อมไขมันผลิตไขมัน
สิวหัวช้าง มีสาเหตุการเกิดจากมาการติดเชื้อใต้ผิวหนัง โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะพัฒนามาจากสิวอุดตัน หรือไม่ใช่ก็ได้ทั้งสิ้น และเมื่อเกิดการติดเชื้อ เจ้าภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา จะมีการตอบตอบสนองกับเชื้อจนทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของร่างกายเราเอง เพื่อต่อสู้ และเมื่อเวลาผ่านไปจนทำให้สิวหัวช้างมีหนองอยู่ใต้ผิวหนังในที่สุดนั่นเอง
พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้เกิดสิวหัวช้าง
หลายคนมักไม่เคยสังเกตถึงพฤติกรรมตนเอง ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิวทุกชนิด ไม่ใช่เพียงแค่สิวหัวช้าง แม้คุณจะดูแลผิวหน้าด้วย Skin Care ที่ดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อไปนี้ บอกเลยสิวยังไงก็กลับมา
ใช้มือลูบหรือสัมผัสหน้าบ่อยๆ
หลายคนมักจะรักษาความสะอาดแทบเป็นแทบตาย แต่สุดท้ายเผลอใช้มือลูบหรือสัมผัสผิวหน้าตลอดทั้งวัน กลับกลายเป็นว่าที่ทำมาสูญเปล่าหมด กลายเป็นพาเชื้อโรคเข้าสู่ใบหน้าโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวนั้นเอง
เหงื่อตัวการสำคัญ
สำหรับคนที่รักสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เกิดเหงื่อจากการออกกำลังกายมากมาย หากเป็นสิวหัวช้าง หรือสิวอุดตัน ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเหงื่อที่ออกผสมกับความมันจากใบหน้าอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเกิดการอุดตัน และเกิดสิวได้ในที่สุด
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวตนเอง
หลายคนที่ใช SkinCare มักจะดูแต่โฆษณา สรรพคุณ แต่ดันลืมดูว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น เหมาะสมกับสภาพผิว หรือปัญหาผิวของตนเองหรือไม่ ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจมีส่วนผสมที่ไปกระตุ้นการอุดตันรูขุมขนหรือกระตุ้นการอักเสบบนผิวหนัง สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิวของคุณและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) เพื่อลดโอกาสในการเกิดสิว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงหรือส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ซึ่งสามารถทำให้สภาพสิวแย่ลงได้
พักผ่อนไม่เพียงพอ
หนุ่มสาวยุคใหม่มักจะนอนดึกขึ้นมากเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะมาจากงานที่ต้องทำ หรือ กิจกรรมการพักผ่อนที่ต้องทำให้นอนดึก ไม่ว่าจะเป็น การนอนดูซีรี่ย์เกาหลี การออกไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่การที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง ก็เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นเดียวกัน
ความเครียด
ความเครียดไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพผิวได้อีกด้วย โดยที่ความเครียดสามารถเพิ่มระดับฮอร์โมน เช่น คอร์ติซอล ซึ่งส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และอาจนำไปสู่การเกิดหรือการแย่ลงของสิวหัวช้าง
คำถามที่พบบ่อย
แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง คำถามที่หลายคนมักจะตั้งสำหรับปัญหา สิวหัวช้าง มีมากมายก่ายกอง หากจะนำมาเรียงกันให้ครบ มั่นใจเหลือเกินว่าหน้ากระดาษ A4 ก็คงจะไม่พอเป็นแน่ วันนี้เราจะคัดเอาเฉพาะคำถามที่หลายคนมักจะคิดเห็นไปในทางเดียวกัน
สิวหัวช้างกี่วันหาย
สิวหัวช้าง กี่วันหาย สำหรับการรักษาโดยวิธีธรรมชาติเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่สำหรับเจ้า สิวหัวช้าง บอกเลยว่า ต้องเหนื่อยหน่อย การป้องกันไม่ให้มันเกิดมายังง่ายดายยิ่งกว่า การดูแลรักษา หลายครั้งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ หรือมากกว่านั่น ในส่วนนี้มักจะขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ว่าเรามีการตอบสนองต่อสิ่งที่นำมาใช้ดูแล รักษา เสียมากกว่า แต่ต้องบอกเลยว่าสำหรับขั้นตอนที่ยาวนานที่สุด กลับไม่ใช่ขั้นตอนการรักษา แต่เป็นการดูแลรักษา ผลกระทบที่ตามมา สำหรับปัญหาก็คือ “แผลเป็น” และ “หลุมสิว” รวมไปถึง “รอยแดง” ต้องบอกเลยว่าเจ้าวายร้ายในครั้งนี้มีพลังทำลายสูงมาก บริเวณที่จะต้องดูแลอย่างต่อเนื่องใหญ่กว่าสิวทั่วๆไปมากนัก บางคนต้องใช้เวลาดูแลมากกว่าหลายเดือน บางรายถึงกับใช้เวลาเป็นปี กวาาจะกลับมาสวยอีกครั้ง
สิวหัวช้างหายเองได้ไหม
หลายคนอาจสงสัยว่า “สิวหัวช้างหายเองได้ไหม” คำตอบคือ ในบางกรณีที่สิวไม่รุนแรงมาก ร่างกายอาจสามารถฟื้นฟูได้เอง แต่ส่วนใหญ่ควรได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีร่วมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามหรือเกิดแผลเป็นได้ง่าย
สิวหัวช้างรักษายังไง
หลายคนมักจะต้องการค้นหาคำตอบว่าการดูแล และมักจะตั้งคำถามว่า สิวหัวช้างรักษายังไง? เมื่อมันเริ่มปะทุ การดูแลและรักษาที่ถูกต้องจะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ในหัวข้อนี้จะอธิบายวิธีดูแลในภาพรวม และจะเจาะลึกเพิ่มเติมในหัวข้อยารักษา
ดูแลผิวประจำวัน
-
- ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน
- หลีกเลี่ยงการขัดถูรุนแรง
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมอุดตัน
เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
-
-
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงความเครียดและควบคุมอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ
-
ปรึกษาแพทย์
-
-
-
- ในกรณีที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจแนะนำยาปฏิชีวนะหรือยากลุ่มอื่น
- อาจพิจารณาการฉีดสเตียรอยด์เฉพาะจุดกรณีที่บวมแดงมากๆ
-
-
เมื่อ “สิวหัวช้างแตก” อาจทำให้เกิดการกระจายของแบคทีเรียหรือหนองไปยังบริเวณใกล้เคียง จนเสี่ยงต่อการอักเสบลุกลามหรือเกิดสิวใหม่ การดูแลเมื่อสิวแตกจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ควรทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างอ่อน
- ทายาแต้มสิวหรือยาฆ่าเชื้อที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิว
ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น
หนึ่งในวิธีการขั้นพื้นฐานเลยก็ว่าได้ โดยการล้างหน้าให้สะอาดจะทำให้ช่วยลดการอุดตันและลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว การล้างหน้าที่ดีไม่ควรล้างบ่อยจนเกินไป ให้ล้างแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น ก็เพียงพอแล้ว เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวหน้าแห้งและขาดความชุ่มชื้น ตรงนี้จะทำให้ต่อมไขมันใต้รูขุมขนกระตุ้นการผลิตน้ำมันออกมาบนใบหน้ามากขึ้น และทำให้หน้ามัน จนเกิดการอุดตันในรูขุมขนมากขึ้นนั่นเอง โดยผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้จึงควรพิจารณาว่าเป็นโฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติและสูตรเฉพาะกับคนที่มีปัญหาสิวหรือไม่ ? เหตุผลก็เพราะว่าโฟมล้างหน้าประเภทดังกล่าวจะมีส่วนประกอบและเทคโนโลยีที่ตรงเข้าไปจัดการกับปัญหาสิวของเราได้อย่างถูกวิธีและตรงจุด
สิวหัวช้าง ทายาอะไร
สิวหัวช้างมักจะต้องใช้การรักษาที่รุนแรงกว่าการรักษาสิวทั่วไป เนื่องจากมันเป็นสภาพที่อักเสบและลึกกว่า ยาที่ใช้ทาโดยเฉพาะมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการอักเสบ
เรตินอยด์
เรตินอยด์เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการรักษา เนื่องจากมีคุณสมบัติในการควบคุมการผลิตน้ำมันและช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังตาย ซึ่งลดการอุดตันในรูขุมขน
เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์
เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์เป็นหนึ่งในการรักษาที่ได้ผลดีสำหรับสิว เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดการอักเสบ มักใช้ร่วมกับยาเรตินอยด์หรือยาปฏิชีวนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา
สิวหัวช้างไม่มีหัว
มาถึงคำถามสำคัญ และหลายคนกำลังเฝ้ารอคำตอบ หลายคนมักจะมีความรู้สึกว่าอยากกำจัดเจ้า “สิวหัวช้าง” ให้ออกไปจากชีวิตโดยเร็วที่สุด จึงมักจะหาทุกวิธีทาง ไม่ว่าจะเป็นการพยายาม “บีบ” หาอะไรมาเจาะ เนื่องจากอย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าสิวชนิดนี้มักจะไม่มีหัว สิ่งเหล่านี้ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ปัญหาของคุณ “เลวร้าย” ลงอย่างต่อเนื่องอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไหนจะปัญหาหลุมสิวลึกที่ตามมาอีกก็จะเป็นปัญหาที่จะอยู่คู่กับผิวหน้าไปตลอดกาล ดังนั้นเราแนะนำว่าไม่ “ควร” บีบ หรือ เจาะสิวด้วยตนเองโดยเด็ดขาด ถ้าไม่อยากหน้าพังฃ
สิวหัวช้าง ใหญ่มาก
ในบางราย “สิวหัวช้าง ใหญ่มาก” จนอาจมีขนาดเทียบเท่าหรือใหญ่กว่าสิวทั่วไปหลายเท่า สาเหตุหลักเกิดจากการอักเสบลึกและการสะสมของหนองในปริมาณมาก หากสิวชนิดนี้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี อาจส่งผลให้ผิวเกิดรอยบุ๋มหรือแผลเป็นในอนาคต
สรุป
สิวหัวช้างอาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลายคน ทั้งเรื่องของความเจ็บปวด ความรุนแรง และโอกาสทิ้งแผลเป็น แต่หากเข้าใจ “สิวหัวช้างเป็นยังไง” และเลือกวิธีรักษาอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทา การดูแลผิวประจำวัน หรือแม้กระทั่งปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็สามารถลดความเสี่ยงและช่วยให้สิวหัวช้างฟื้นตัวได้เร็วขึ้น