สารบัญ
ในแต่ละวันทุกคนต่างต้องเผชิญกับมลภาวะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นควัน ละอองไอน้ำต่าง ๆ เป็นต้น โดยเฉพาะ PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นพิษที่ร้ายแรง ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพด้านร่างกาย จนเกิดโรคร้ายแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณของเราด้วย แม้ว่าจะใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นแล้วก็ตาม มากไปกว่านั้น ใส่หน้ากากอนามัย สิวขึ้น อีกด้วยค่ะ วันนี้ทางแอดมินจะมาเล่าถึง ฝุ่น และการป้องกันผิว เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดีและกระจ่างใสอยู่เสมอ
PM 2.5 ทำร้ายผิว ได้อย่างไร?
ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่เกิดจากการรวมตัวของไอน้ำกับฝุ่นควัน จนเกิดเป็นก๊าซพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายและสะสมอุดตันตามรูขุมขน ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ ทำให้ไม่สามารถระบายออกมาได้ จนเกิดสิว ประเภทต่าง ๆ ตามมา อีกทั้งยังส่งผลให้สารต้านทานอนุมูลอิสระและภูมิต้านทานผิวลดลง ทำให้ผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายกว่าคนไม่ค่อยได้สัมผัสมลพิษทางอากาศ
ระดับความรุนแรงของปัญหาผิวหนัง
สำหรับผู้ที่เกิดอาการภูมิแพ้ผิวหนังสามารถจำแนกความรุนแรงได้ 3 ระดับ ดังนี้
-
ระดับน้อย
มีสิวอุดตันหรือสิวอักเสบตามบริเวณต่าง ๆ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาทาสิวหรือรับประทานยาเพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ
-
ระดับปานกลาง
มีอาการผื่นขึ้นตามร่างกาย ปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคือง รักษาได้โดยการใช้ยาทาและรับประทานยาแก้แพ้ร่วมกัน เพื่อลดอาการผื่นขึ้นและอาการระคายเคืองที่เกิดจากอาการภูมิแพ้
-
ระดับรุนแรง
มีอาการผื่นลมพิษหรือมีอาการปวดแสบปวดร้อนเป็นระยะเวลานาน ซึ่งกรณีนี้ต้องรีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการรักษา
วิธีการดูแลรักษาผิวให้ปลอดภัยจากฝุ่น
-
การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้มลพิษ ทำงานได้ดีมากขึ้น เนื่องจากในสภาวะที่มีความร้อนสูงทำให้ฝุ่นสามารถลอยตัวได้หลายระดับมาก อีกทั้งในวันที่มีแดดจัด ร่างกายมักจะสร้างเหงื่อและน้ำมันออกมาที่ผิวเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งน้ำมันและเหงื่อที่อยู่บนผิวต่างก็เป็นตัวจับฝุ่นในอากาศที่ดีมาก จึงอาจก่อให้เกิดการอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง จึงเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการป้องกันผิวจากแสงแดดและลดการผลิตน้ำมันบนผิวด้วย ซึ่งจะช่วยลดการอุดตันจากฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย ซึ่งค่า SPF ที่แนะนำสำหรับครีมกันแดด ควรอยู่ที่ SPF 15-50 ตามแสงแดดที่เราต้องเจอ
-
หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นมาก
หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นมากเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็น บริเวณถนนที่มีการจราจรหนาแน่น จุดก่อสร้างที่มักมีฝุ่นมาก หรือ บริเวณที่มีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ การหลีกเลี่ยงอยู่บริเวณเหล่านี้จะช่วยลดการรับมลพิษ ได้มากขึ้น แต่หากจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นมากอาจจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและหมวกเพื่อลดการรับฝุ่น
-
ล้างหน้า อาบน้ำ และสระผมทันทีหลัง
หากต้องออกไปข้างนอกและจำเป็นต้องเจอฝุ่นมาก ๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านควรทำความสะอาดร่างกายทันที เพราะหากไม่ทำความสะอาดทุกส่วนของร่างกายก็อาจจะทำให้เกิดสิวหรือเกิดผดผื่นตามร่างกายได้ การล้างหน้าควรล้างให้สะอาดมากที่สุดโดยใช้คลีนซิ่งเช็ดคราบเครื่องสำอางและครีมกันแดดออกก่อน จากนั้นก็ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าในสะอาดจนทั่วใบหน้า แล้วจึงใช้โทนเนอร์ทำความสะอาดผิวอีกครั้งหนึ่ง และต้องสระผมด้วยทุกครั้ง เพราะฝุ่นสามารถติดตามเส้นผมได้ง่าย เนื่องจากเส้นผมของเรามักจะมีน้ำมันเคลือบอยู่ ทำให้ฝุ่นติดกับน้ำมันที่เคลือบอยู่บนผม เราจึงต้องทำความสะอาดทุกส่วนของร่างกายเพื่อกำจัดฝุ่นออกจากร่างกายให้ได้มากที่สุด
-
มาสก์หน้าเพื่อลดการระคายเคืองผิว
หลังจากที่ผิวของเราต้องเผชิญกับฝุ่น มาตลอดทั้งวัน เราต้องทำการผ่อนคลายและฟื้นฟูผิวด้วยมาสก์เป็นประจำ เนื่องจากมาสก์มีคุณสมบัติหลักคือ ช่วยลดการระคายเคือง ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ซึ่งตลอดวันที่เราต้องเจอกับฝุ่น ผิวจะเกิดการระคายเคือง แห้งตึง และหมองคล้ำ ซึ่งหากผิวของเราต้องเจอ ทุกวันและไม่ได้รับการบำรุงและฟื้นฟูที่ดี ก็อาจจะทำให้เกิดริ้วรอย ผิวคล้ำเสีย เป็นสิว และโครงสร้างเซลล์ผิวเสียได้
-
ทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ
การทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิว ช่วยควบคุมความมัน และลดการอุดตันที่ก่อให้เกิดสิวได้ เมื่อผิวมีความชุ่มชื้น ไม่เหนียวเหนอะหนะจากน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าเพราะมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าแล้ว การสะสมและอุดตันของฝุ่น กับใบหน้าและรูขุมขนก็จะลดลง ทำให้ช่วยลดการเกิดสิวจากฝุ่น PM 2.5 ได้ และยังช่วยลดการระคายเคืองผิวลดการอักเสบของผิว รวมถึงความแห้งกร้านที่เกิดจากฝุ่นได้ดีอีกด้วย