สารบัญ
เซรั่มวิตซี (Serum Vitamin C)
สวัสดีค่าสาว ๆ ใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ เซรั่ม ที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสมากขึ้น วันนี้แอดมินก็มีผลิตภัณฑ์มาแนะนำเพื่อผิวขาวกระจ่างใสโดยเฉพาะมาฝากกัน นั่นก็คือ เซรั่มวิตามินซี นั่นเองค่ะ แล้วมันคืออะไร? มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร? ตามมาดูกันเลยค่ะ
วิตามินซี (Vitamin C) คืออะไร?
วิตามินที่พบได้บ่อยในผักและผลไม้ สามารถละลายในน้ำได้ วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องรับวิตามินซีจากการกิน และหากพูดถึงวิตามินซีในแง่ของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว วิตามินซีถือเป็นส่วนประกอบที่ดีต่อผิวมาก เนื่องจากคุณสมบัติหลักของวิตามินซีที่มักจะช่วยในเรื่องของความงามและการบำรุงผิวพรรณ เช่น ช่วยชะลอริ้วรอย ทำให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง เป็นตัวกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเต่งตึง และช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
ดังนั้น Serum Vitamin C นั่นก็คือ วิตามินซีเข้มข้นที่ช่วยเข้าตรงฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสและเต่งตึงอยู่เสมอ โดยมีการซึมลึกที่รวดเร็วและมีวิตามินซีที่เข้มข้นสูง จึงสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลไว และมีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ได้ต่อเนื่องยาวนาน ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากวิตามินซีสามารถละลายในน้ำได้ สามารถขับออกมาพร้อมเหงื่อและปัสสาวะได้ จึงไม่เป็นสารตกค้างในร่างกายนั่นเอง
เซรั่มวิตซี ควรมีค่า pH เท่าไหร่
โดยทั่วไปแล้ว การที่เซรั่มวิตามินซี จะสามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี ควรมีค่าพีเอช (pH) ที่ค่อนข้างเป็นกรด (ประมาณ 3.5) แต่ก็เป็นค่าพีเอชที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย อาจเกิดอาการคัน แสบ แดง หรือเป็นผื่น ในการผลิตเซรั่มวิตามินซีที่ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิวจึงมีการคิดค้นอนุพันธ์ของวิตามินซีขึ้นมา เพื่อเพิ่มความเสถียรและลดความเป็นกรดของวิตามินซีลง โดยมีค่า pH อยู่ที่ราว 4.5 – 5.5 ซึ่งจะอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นเราควรเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีที่อยู่ในรูปแบบของอนุพันธ์วิตามินซีที่มีค่า pH ที่เหมาะสมและเป็นมิตรกับผิวแพ้ง่าย เป็น เซรั่มวิตามินซีสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองจะดีที่สุด
เซรั่มวิตซี ควรมีความเข้มข้นเท่าไหร่
ความเข้มข้นของเซรั่มวิตามินซี มีผลต่อการบำรุงบนผิวของเราให้มีประสิทธิภาพ จากการทดสอบพบว่าความเข้มข้นของเซรั่มวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสไร้ริ้วรอยเห็นผลชัดเจนต่อผิวหน้าของเรา อยู่ที่ประมาณ 5% – 20% หากใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีต่ำกว่า 5% ผลลัพธ์การดูแลผิวขาวกระจ่างใสก็คงไม่ได้ตามคาดหวัง แต่ในทางกลับกันหากใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เข้มข้นมากกว่า 20% อาจเป็นอันตรายต่อผิวได้ เพราะความเข้มข้นที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย ดังนั้นการเลือกเซรั่มวิตามินซีมาใช้บำรุงผิวหน้าควรเลือกความเข้มข้นที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
6 ประโยชน์ของ เซรั่มวิตามินซี
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของวิตามินสูง จึงสามารถช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีประโยชน์มากมายกับผิว โดยเราจะมาดูกันเป็นข้อ ๆ ดังนี้
1.ช่วยให้ผิวขาว สว่าง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้วยความที่วิตามินซีมีอนุภาคเป็นกรด จึงช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใสได้ โดยวิตามินซีจะเข้าไปช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้ผิวแลดูสว่างมากขึ้น สามารถปรับผิวให้ขาวขึ้นอีกขั้นได้ ซึ่งการปรับสีผิวให้ขาวขึ้นของวิตามินซีจะทำด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย จึงช่วยให้การปรับสีผิวเป็นแบบขาวอย่างเป็นธรรมชาติ และยังปลอดภัยต่อผิวด้วย
อ่านเพิ่มเติม: Wongnai แนะนำเซรั่มวิตามินซีดูแลผิวขาวกระจ่างใส
2.เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวฉ่ำเด้ง
ช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นได้ เพราะวิตามินซีสามารถให้ความความชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ จึงทำให้การทาเป็นประจำจะทำให้ผิวหน้าฉ่ำเด้งและสามารถควบคุมความมันบนใบหน้าได้ เนื่องจากผิวที่มีความชุ่มชื้นอยู่แล้ว จะทำให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง จึงไม่เกิดความมันส่วนเกินในผิวที่มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอนั่นเอง
3.กระตุ้นและสร้างคอลลาเจนให้กับผิว
วิตามินซีช่วยกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนที่อยู่ใต้ชั้นผิวได้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวหนังจะเริ่มลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ร่องลึก ตีนกา และริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ดังนั้นจึงต้องฟื้นบำรุงผิวด้วยเซรั่ม Vitamin C เพื่อให้วิตามินซีเข้มข้นเข้าไปกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวนั่นเอง ผิวจะได้ดูเต่งตึงและอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ
4.ลดริ้วรอยก่อนวัย ด้วยเซรั่มวิตามินซี
ด้วยความที่เซรั่มช่วยในเรื่องของการกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิว จึงสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ ซึ่งหากเรามีอายุอยู่ในช่วงไม่เกิน 30 ปี นั่นหมายความว่าเรายังมีการสร้างคอลลาเจนอยู่ แต่ในร่างกายของเรามีสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การสร้างคอลลาเจนก็จะแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในผิวแห้งถึงแห้งมาก อาจเกิดการสร้างคอลลาเจนที่น้อยลงเร็วกว่าผิวในสภาพอื่น จึงทำให้ผิวแห้งถึงแห้งมากมักจะพบปัญหาริ้วรอยก่อนวัยตั้งแต่อายุยังไม่เกิน 30 ปี ดังนั้นจึงต้องใช้ serum vitamin c เข้ามาช่วยในการสร้างคอลลาเจน เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
นอกจากนี้ เซรั่มวิตามินซียังช่วยให้เราได้ฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้กลับมาเต่งตึง เรียบเนียน ผิวดูสม่ำเสมอ เหมือนกับผิวของวัยรุ่นขาวใสและเต่งตึงได้ง่าย ๆ แค่ใช้เซรั่มวิตามินซี ไม่ทำให้ผิวอุดตันและก่อให้เกิดสิวอย่างแน่นอน เพราะเนื้อเซรั่มบางเบามาก ซึมซาบไวเพราะมีโมเลกุลที่เล็กมาก สามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกถึงใต้ชั้นผิว เหมือนกับการให้ผิวได้พักผ่อนเพื่อฟื้นฟูให้กลับมาสมบูรณ์และแข็งแรงอีกครั้ง ทั้งใช้ง่ายและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นสกินแคร์ยอดนิยมที่คนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก
5.ฟื้นฟูผิวให้กระชับ เรียบเนียน เต่งตึง
เนื่องจากวิตามินซีมีสรรพคุณช่วยสร้างคอลาเจนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว Serum Vitamin C จึงช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความกระชับ เรียบเนียน และเต่งตึงได้ด้วยเช่นกัน และด้วยความที่เซรั่มเป็นสารสกัดเข้มข้นที่มีเนื้อเบาและซึมลึกได้ดี จึงทำให้การฟื้นฟูและบำรุงผิวเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลได้ค่อนข้างเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลง ผิวจึงกระชับได้มากขึ้น เนื่องจากรูขุมขนที่กว้างมักเกิดจากการสร้างน้ำมันของต่อมไขมันมีมาก ทำให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ จึงส่งผลให้รูขุมขนมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย เจ้าเซรั่มจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น จึงช่วยลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันได้ เมื่อต่อมไขมันไม่ได้ถูกใช้งานนาน ๆ ก็จะมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง ผิวจึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
Skin Care Tips
ด้วยประโยชน์ด้วยมากของเซรั่มวิตามินซีนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆจำนวนมากถึงนิยมใช้เซรั่มวิตามินซีในการบำรุงผิวหน้า หากใครอยากได้แนะนำในการใช้เซรั่มให้เหมาะกับปัญหาผิวของคุณ เลือกให้ดี ไม่มีบ้งแน่นอน อ่านต่อที่นี้ได้เลย : >> ” เซรั่มและผิวหน้า ” << แล้วตามมาดูกันนะคะว่าเรามีเคล็ดลับอะไรบ้าง
เซรั่มวิตามินซี ใช้คู่กับอะไรดี
- Vitamin E ซึ่งวิตามินอี จะละลายได้ดีในไขมัน ซึ่งมีผลดีต่อผิวหน้าของเรามาก แล้วยิ่งใช้คู่กับเซรั่มวิตามินซีก็จะยิ่งเข้าไปช่วยในเรื่องของการต่อต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของวิตามินซีเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าอีกด้วย
- Centella Asiatica หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทย ๆ นั่นก็คือใบบัวบก ถ้าเราใช้ตัวนี้คู่กับเซรั่มวิตามินซีจะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นเพื่อสร้างคอลลาเจน เมื่อผิวมีการสร้างคอลลาเจนมาก ริ้วรอยหรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว รอยแดงรอยดำก็จะเลือนหายเร็วขึ้นนั่นเอง
- Glycolic Acid ตัวนี้เป็นเหมือนสารกระตุ้นส่งเสริมการทำงานของเซรั่มวิตามินซีซึ่งมีส่วนช่วยใน การยับยั้งการเกิดเม็ดสีผิว กระชับรูขุมขนละทำให้รอยดำรอยแดง รวมถึงรอยสิวหายเร็วขึ้น
จากที่เราได้กล่าวมาข้างต้น ทุกคนคงจะเห็นสรรพคุณของทั้งสามตัวว่าถ้าใช้คู่กับเซรั่มวิตามินซี แล้วจะทำให้ผิวหน้าของเราดีขึ้นได้อย่างไร ตอนนี้เรามาเรียนรู้ ขั้นตอนบำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มวิตามินซี กันค่ะ
ขั้นตอนบำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มวิตามินซี
เซรั่ม วิตามินซี อยู่ในหมวดหมู่ของสกินแคร์ที่ใช้ในขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า ซึ่งก่อนจะใช้เซรั่มวิตามินซี เราจะต้องใช้ น้ำตบหน้าใส หรือสเปรย์น้ำแร่ก่อนเพื่อปรับสภาพผิวของเราให้มีความชุ่มชื้นพร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราจะต้องเลือกน้ำตบหรือสเปรย์ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของเซรั่มวิตามินซี ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
หรือบางคนอาจจะเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อไปเสริมสร้างการทำงานของเซรั่มวิตามินซีก็มีเช่นกัน ซึ่งวิธีเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและส่งเสริมการทำงานของเซรั่มวิตามินซีนั้น เราก็ได้ให้ข้อมูลกับทุกคนไปแล้วในตอนแรกว่าเราควรใช้เซรั่มวิตามินซีคู่กับอะไรบ้าง ทุกคนสามารถดูส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ด้านหลังกล่องหรือสอบถามพนักงานขายก็ได้อีกเช่นกันค่ะ
ในส่วนของวิธีการใช้สกินแคร์และขั้นตอนการดูแลผิวหน้าที่ถูกต้องที่เราจำเป็นต้องรู้ ก่อนอื่นเราต้องทำความสะอาดผิวด้วย คลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิว เลือกตามที่เหมาะกับผิวหน้าของเราเลย แล้วต่อด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิวของเรา จากนั้นใช้ น้ำตบบำรุงผิวหน้า หรือสเปรย์น้ำแร่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเราและเตรียมความพร้อมให้กับชั้นผิวของเราให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อๆไป หลังจากนั้นให้ใช้เซรั่มวิตามินซีทาบางๆให้ทั่วใบหน้าและลำคอ นวดกระตุ้นเบาๆเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
หลังจากใช้เซรั่มวิตามินซีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ต่อได้เลยเพื่อเคลือบชั้นของเซรั่มวิตามินซี อีกทีและในขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการใช้ ครีมกันแดดทาหน้า เพราะครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวหน้าของเราจากรังสียูวีและมลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครมีผิวแพ้ง่าย ยิ่งต้องใช้ครีมกันแดดปกป้องเป็นประจำ
ต้องขอเตือนทุกคนเอาไว้ก่อนเลยว่า เราไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวปะปนกันไปโดยที่ไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นสามารถใช้คู่กันได้หรือไม่ เพราะหลายคนผิวหน้าพัง เป็นสิว ผิวเป็นผื่น หรือปัญหาต่าง ๆ เพราะใช้ของที่ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้มาเยอะมาก หรือใครใช้สกินแคร์บำรุงหน้าเยอะมากแต่ไม่เห็นผลสักที อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ก็เป็นได้ การใช้สกินแคร์ที่ไม่ส่งเสริมในการทำงานของกันและกัน จะทำให้ผิวหน้าของเราไม่ได้รับการบำรุงได้อย่างเต็มที่อีกทั้งยังเป็นการสิ้นเปลืองเงินอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรเลือกสกินแคร์ที่ส่งเสริมกันและเข้ากับผิวของเราด้วยนั่นเอง
Skin Care Tips
ขั้นตอนการบำรุงผิวนั้นสำคัญมาก เราแนะนำว่าการทาเซรั่มวิตามินซีร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นให้คำนึงถึงเรื่องให้ทาชั้นที่บางเบาที่สุดไล่ไปยังชั้นที่หนาที่สุดเพื่อช่วยให้ผิวดูดซับแต่ละชั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นการรู้จักเซรั่มแต่ละประเภทและส่วนประกอบจึงสำคัญมาก
เซรั่มวิตามินซี เข้มข้น 14% ฟื้นฟูยกกระชับผิว อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย
เซรั่ม บำรุงผิวสูตรวิตามินซีจาก AquaPlus Enriched C-Serum นวัตกรรมใหม่เติมความชุ่มชื่น ซึมลึกได้ทันทีที่สัมผัสผิว ฟื้นฟูความร่วงโรยให้ผิวแลดูเนียนละเอียด และกระจ่างใส ช่วยยับยั้งการลำเลียงเม็ดสีขึ้นไปบนผิวหนัง ผิวจะกระจ่างใสขึ้น ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนจึงช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้นได้ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง พิสูจน์ผลลัพธ์เมื่อใช้ต่อเนื่อใน 1-7 วัน ผิวดูชุ่มชื่น หน้าขาวใสขึ้น ผิวกระชับ ริ้วรอยแลดูลดเลือนลง ผ่านการทดสอบ Dermatological Tested จากแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้การแพ้การระคายเคือง