เราเป็น ‘สิวเรื้อรัง’ หรือเปล่านะ?
มี.ค.
สารบัญ
ปัญหาเป็นสิว เรื้อรัง รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย คงรู้สึกว่าเป็นปัญหาที่ยากและน่ารำคาญใจสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ จริงๆ แล้วสิว ประเภทนี้สามารถดูแลรักษาให้หายขาดได้ อาจต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย แต่รับรองว่าหายชัวร์ วันนี้ AquaPlus จะมาไขคำตอบวิธีการรักษาสิวเรื้อรังให้กับทุกคนได้นำไปใช้เพื่อให้ผิวสวย ไร้สิวกันค่ะ
สิวเรื้อรัง คืออะไร?
คือสิวที่เกิดในจุดหรือบริเวณซ้ำ ๆ ไม่ยอมหาย ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อของสิว การมีเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว หรือการที่ผิวหนังอักเสบจากอาการแพ้สารเคมีหรือแพ้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นง่ายกว่าในคนผิวที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย
สิวขึ้นทุกวัน เกิดจากอะไร
อาการของสิวประเภทนี้มีหลายระดับตั้งแต่
-
- ระดับกลาง คือ สิวขึ้นจุดเดิม มีสิวผด สิวเม็ดเล็ก และมีสิวอักเสบอยู่ร่วมด้วย ซึ่งมีสิวอักเสบที่เกิดขึ้นไม่เกิน 5 จุด และมีสิวหัวช้าง ไม่เกิน 3 จุดบนใบหน้า
-
- ระดับรุนแรง คือ สิวขึ้นจุดเดิม มีสิวเม็ดเล็ก สิวอักเสบเกิน 5 จุด และมีสิวหัวช้างเกิน 3 จุด บนใบหน้า
สิวเรื้อรัง ดูแลอย่างไร
สิวประเภทนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งเราจะใช้วิธีการรักษาสิวแบบเป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้สิวค่อยๆ ลดน้อยลง และหายแบบถาวรไปในที่สุดนั่นเอง วิธีการรักษาให้หายขาดมีดังนี้ค่ะ
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับคนเป็นสิว
อันดับแรกเลยเราต้องมาจัดการผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำทุกวันก่อน ตั้งแต่ คลีนซิ่ง โฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด เป็นต้น ซึ่งเราจำเป็นต้องมองหาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่เป็นสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวบอบบางและเป็นสิวง่ายมาใช้ เพราะการเป็นสิวบ่อย ๆ อาจเกิดขึ้นจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ แต่ไม่รู้บางคนก็ใช้ต่อไป
2.มาสก์หน้าเป็นประจำ
การที่สิวเกิดขึ้นบ่อย ซ้ำๆ อาจเกิดจากผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นและผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้เกิดสิวบ่อยเป็นวัฏจักรจนกลายเป็นสิว ดังนั้นการมาสก์หน้าเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ผิวได้รับอาหารผิว เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว และลดการเกิดสิวได้มากขึ้น หากมาสก์หน้าเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยให้เกิดสิวน้อยลง ผิวหน้าดูสุขภาพดี ฉ่ำเด้ง สดใสมากยิ่งขึ้นค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: คุณประโยชน์จากการ “มาร์กหน้า”
3.ผลัดเซลล์ผิวบ้าง
การผลัดเซลล์ช่วยให้สิวเกิดขึ้นน้อยลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้น และทำให้ครีมบำรุงผิวเข้าสู่เซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึกขึ้น เพราะการที่เซลล์เก่าที่ตายแล้วยังอยู่บนใบหน้า และถูกสะสมเป็นเวลานาน ก็จะทำให้เกิดการอุดตัน ผิวหน้าดูคล้ำเสีย และทำให้ครีมบำรุงผิวไม่เข้าสู่เซลล์ผิวอย่างเต็มที่แต่จะติดอยู่บนเซลล์เก่า
ดังนั้น เราจึงต้องทำการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพื่อลดการเกิดสิว การผลัดเซลล์ผิวเก่าทำได้หลายวิธี เช่น สครับ (ควรเป็นสูตรอ่อนโยนและหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นสิว) กรดผลไม้ หรือใช้ครีมบำรุงผิวที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวได้
4.ทรีทเม้นท์ผิวหน้าบ้าง
การทรีทเม้นท์ผิวหน้าจะช่วยให้ผิวสุขภาพดี ห่างไกลสิว และทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะการทรีทเม้นท์ผิวเป็นการช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและทำให้ผิวสดชื่น ได้รับการบำรุงมากขึ้น เราอาจทรีทเม้นท์ผิวหน้าสักสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็ได้ค่ะ
วิธีการทรีทเม้นท์ง่ายๆ ทำได้ที่บ้านก็มี 4 ขั้นตอนคือ
- ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางต่างๆ ออกให้หมด และตามด้วยโฟมล้างหน้าทำความสะอาดหน้าให้สะอาด
- ผลัดเซลล์ผิวเก่า อาจจะทำด้วยกรดผลไม้หรือสครับที่มีเม็ดบีทก็ได้
- มาสก์หน้า ก่อนมาสก์หน้าแนะนำให้ทำการเปิดรูขุมขนก่อน ด้วยน้ำอุ่น หรือ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้ววางบนหน้าประมาณ 5 นาที พอมาสก์หน้าเสร็จก็ให้ทำการปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็นด้วย
- ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวฉ่ำเด้ง ลดผิวมัน และช่วยลดการเกิดสิว
5. ต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ
อันนี้สำคัญมาก เพราะการที่ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสียแล้ว ยังทำให้ต่อมไขมันเร่งการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ต้องเกิดสิวตามมา และหากต่อมไขมันสร้างน้ำมันจำนวนมากแล้วล่ะก็ โอกาสการเกิด สิวเรื้อรัง ก็จะมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นก่อนออกจากบ้านอย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งกันด้วยนะคะ
สรุป สิวเรื้อรัง
สิวเรื้อรังเป็นปัญหาผิวหนังที่ไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญใจและผลกระทบต่อความมั่นใจ แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความไม่สมดุลภายในร่างกายที่อาจต้องได้รับการดูแลและจัดการอย่างถูกต้อง สิวเรื้อรังไม่ได้เกิดจากการขาดการดูแลเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเกิดสิวเรื้อรังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม แม้แต่ความเครียดก็สามารถส่งผลต่อการเกิดได้เช่นเดียวกัน