สารบัญ

วิธีรักษาสิวอักเสบ

สิวอักเสบเป็นปัญหาผิวพรรณที่สร้างความกังวลใจไม่น้อยเพราะสามารถทิ้งรอยแดงหรือรอยดำบนผิวได้ การรักษาสิวอักเสบต้องใช้วิธีที่เหมาะสมเพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดรอยแผลเป็น นี่คือคำแนะนำสำหรับวิธีรักษาสิวอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ยาแต้มสิว

ใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ หรือ กรดซาลิไซลิค เพื่อช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สามารถก่อให้เกิดสิว

การใช้ครีมหรือเจลที่มีสารต้านการอักเสบ

สารต้านการอักเสบ เช่น น้ำมันทีทรีหรืออะโดพาลีน (Adapalene) ช่วยลดการอักเสบและทำให้สิวแห้งเร็วขึ้น

การใช้ยาปฏิชีวนะทาผิวหนัง

สำหรับสิวอักเสบรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะทาเพื่อลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

การพบแพทย์ผิวหนัง

หากสิวอักเสบรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

รักษาสิวอักเสบด้วยตัวเอง

การรักษาสิวอักเสบด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ทำได้ง่ายและสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหรือเงินจำนวนมากกับการรักษาทางการแพทย์ มีหลายวิธีที่สามารถช่วยลดการอักเสบของสิวและทำให้หายเร็วขึ้น ตั้งแต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ง่ายจากร้านขายยา ไปจนถึงการใช้วิธีธรรมชาติที่มีอยู่ในบ้าน

ใช้ความร้อนและความเย็น

การใช้ความร้อนหรือความเย็นสามารถช่วยลดการอักเสบของสิว ใช้คอมเพรสน้ำอุ่นวางที่บริเวณสิวเพื่อลดการอักเสบ หรือใช้คอมเพรสน้ำเย็นเพื่อลดรอยแดงและบวม

รักษาความสะอาดของผิวหน้า

ล้างหน้าเป็นประจำวันละสองครั้งด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนและไม่มีน้ำมัน เพื่อลดความมันและสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างบนผิว

หลีกเลี่ยงการบีบสิว

การบีบสิวอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทิ้งรอยแผลเป็นได้ หลีกเลี่ยงการบีบหรือจิกสิวเพื่อป้องกันไม่ให้สภาพแย่ลง

ใช้ทีทรีออย

ทีทรีออยล์ หรือน้ำมันทีทรี เป็นน้ำมันที่สกัดจากใบของต้นทีทรี (Tea Tree) ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของออสเตรเลีย ชาวอะบอริจิน (Aborigines) ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองของออสเตรเลีย มีประวัติการใช้ใบของต้นทีทรีเพื่อการรักษาโรคมาอย่างยาวนาน พวกเขาใช้ใบของต้นทีทรีในการลดไข้ บรรเทาอาการปวดศีรษะ และอาการปวดอื่นๆ นอกจากนี้ยังใช้เป็นสารไล่แมลงด้วย ในปัจจุบัน ทีทรีออยล์ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายประเภท เนื่องจากมีสรรพคุณทางการแพทย์และการดูแลผิวที่หลากหลาย น้ำมันทีทรีมีสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา และต้านไวรัส ทำให้เป็นที่นิยมใช้ในการรักษาสิวและการดูแลผิวที่มีปัญหาอื่นๆ น้ำมันทีทรีมีสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ ใช้น้ำมันทีทรีแต้มบริเวณสิวอักเสบเพื่อช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น

วิธีรักษาสิวอักเสบแบบเร่งด่วน

เมื่อต้องการรักษาสิวอักเสบให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อเห็นผลในเวลาอันสั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และนี้คือหนึ่งในวิธีที่จะช่วยคุรอย่างเร่งด่วน

แต้มสิวด้วยเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)

เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์มีลักษณะเป็นสารที่มีสีขาว มักพบในรูปแบบของเจล ครีม หรือโลชั่น และมีความเข้มข้นต่างๆ ตั้งแต่ 2.5% ไปจนถึง 10% ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการรักษาสิวในแต่ละบุคคล เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ช่วยลดการอักเสบของสิวและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว ใช้แต้มที่บริเวณสิวอักเสบและทิ้งไว้ข้ามคืน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนใช้

ใช้ไฮโดรคอลลอยด์แพทช์ (Hydrocolloid Patch)

ไฮโดรคอลลอยด์แพทช์ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อช่วยในการรักษาแผล และได้กลายเป็นที่นิยมในการดูแลและรักษาสิว โดยเฉพาะสิวที่มีหนองหรือสิวอักเสบที่เห็นได้ชัดเจนบนผิวหน้า แพทช์ประเภทนี้จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากสิว ทำให้สิวยุบและหายเร็วขึ้น ใช้แพทช์ติดที่บริเวณสิวก่อนนอนและปล่อยทิ้งไว้จนถึงเช้า

ใช้ครีมกลางคืนที่มีกรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid)

กรดซาลิไซลิคเป็นหนึ่งในสารที่ได้รับความนิยมใช้ในการรักษาสิวและปัญหาผิวหนังอื่นๆ เนื่องจากมีสรรพคุณในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก มันเป็นกรดที่อยู่ในหมวดของสารที่เรียกว่า เบต้า-ไฮดรอกซีแอซิด (Beta Hydroxy Acids หรือ BHAs) ซึ่งละลายในน้ำมันได้ดี ทำให้สามารถเข้าไปทำความสะอาดและละลายสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อุดตันในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ครีมที่มีส่วนผสมนี้ทาบริเวณสิวก่อนนอน

วิธีลดสิว รักษาสิวด้วยตัวเอง โดยวิธีธรรมชาติ

หากบางครั้งคุณโดนสิวบุกจนน่ารำคาญ ไม่ว่าจะเป็น สิวหน้าผาก สิวที่จมูก สิวหัวช้าง ไม่ว่าจะบีบสิว กดสิว ก็แล้ว ก็ยังไม่หาย แถมกลับมาเป็นซ้ำๆ ที่เดิมๆ ซึ่งแอดมินมันใจว่า ใครที่เป็นปัญหานี้อยู่ต้อง เบื่ออย่างแน่นอน บางคนต้องไปซื้อยามาใช้แต่ ก็ตามมาด้วย ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย และระคายเคือง

คุณรู้หรือไม่ ?

” เรามักสนใจมองหาผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงโดยหวังว่าจะได้ผิวที่กระจ่างใสไร้ฝ้า ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่ขายตามเคาน์เตอร์จะได้รับการกำหนดให้มีความเข้มข้นของสารประกอบที่ปลอดภัย แต่ผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ระคายเคือง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่เราจะลองศึกษาเคล็ดลับการดูแลผิวทั้งหมด เช่นวิธีการรักษาแบบธรรมชาติปลอดสารเคมีในการรักษาผิว โดยอาจจะไม่เห็นผลเร็วเท่า แต่ 10 วัตถุดิบดังกล่าวเราสามารถหาได้ง่ายในบ้านและมีสรรพคุณในการบรรเทา “

วันนี้ แอดมินได้รวมรวม 10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ แบบที่ว่าลองแล้วได้ผลกับตัวเอง มาบอกต่อกันค่ะ

1. ดินสอพอง

ดินสอพองถือว่าเป็น วิธีลดสิว โดยธรรมชาติ ที่คนสมัยก่อนนิยมใช้รักษากันมากที่สุด และมาถึงยุคปัจจุบัน โดยนำดินสอพองมาบดและละลายกับน้ำ จนมีความเหนียวหนืด เหมาะกับการนำมาพอกหน้าเพื่อลดความมันบนผิวหน้า ช่วยให้สิวอักเสบแห้งเร็ว นิยมนำมาผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว แต่ใน 1 สัปดาห์ไม่ควรพอกเกิน 3 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งมากจนเกินไป และอาจจะทำให้เกิดสิวขึ้นกว่าเดิม

ดินสอพอง

2. ลดสิวด้วยหอมแดง

นำหอมแดงมาสับ หรือ ปั่น ผสมน้ำสะอาดลงไปนิดนห่อย แล้ว นำทั้งน้ำทั้งเนื้อหอมแดงมาพอกหน้าไว้ประมาน 10 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้ทำได้ทุกวัน ช่วยให้สิวอักเสบยุบตัวลง และทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลง ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการเกิดสิวใหม่

หอมแดง

3. ไข่ขาว

เป็นเหมือนกาวจากธรรมชาติ ช่วยดีท็อกซ์ผิวหน้าให้สะอาดลึกถึงรูขุมขน ช่วยให้ผิวเด้งกระชับ ช่วยลอกสิวเสี้ยนได้ด้วย ยิ่งใช้ร่วมกับมะนาวก็จะทำให้สิวยุบเร็วขึ้น รอยสิวจางลง ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส

ไข่ขาว

4. สูตรลดสิวด้วยมะนาว

บีบน้ำมะนาวสดๆ ในถ้วย ผสมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำสำลีมาชุบน้ำมะนาวให้ชุ่ม แปะพอกไว้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวแห้งและยุบตัวเร็ว อีกทั้งยังจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย สามารถทำได้ทุกวัน

มะนาว

5. มะละกอ

มะละกอ นอกจากจะนิยมทานเพื่อช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังสามารถนำมาช่วยรักษาสิวอักเสบ และลดรอยดำจากสิวได้ด้วย เนื่องจากในมะละกอมีเอนไซม์ปาเปน (enzyme papain) และ ไคโมปาเปน (Chymopapain) ช่วยย่อยโปรตีน ซึ่งสามารถลดการอักเสบต่างๆ ของผิวหนังได้ และยังช่วยสมานแผลได้ดี

มะละกอ

6. ลดรอยสิวด้วยน้ำผึ้งและโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

ส่วนผสมยอดนิยมสำหรับการรักษาสิวและบำรุงใบหน้า ให้เตรียมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมกับน้ำผึ้งแท้ในอัตราส่วนที่เท่ากัน คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า หรือจะแต้มที่สิวอย่างเดียวก็ช่วยลดรอยสิวได้ ที่สำคัญยังทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใสมากขึ้น แถมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

น้ำผึ้ง

7. ลดรอยสิวด้วยมะเขือเทศ

มะเขือเทศถือเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการบำรุงผิวหน้าให้สดใสและเปล่งประกาย ซึ่งการใช้มะเขือเทศนั้นก็สามารถรักษาสิวได้ดีเช่นกัน โดยเริ่มจากการหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นๆ หรือจะใช้วิธีการบดมะเขือเทศให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกันก็ได้ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วยให้รอยสิวค่อยๆ จางลง

8. ลดรอยสิวด้วยว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาสิว ซึ่งจะทำหน้าที่ในการลดสิวและลดการอักเสบของสิวได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้ดูจางลงได้อีกด้วย ที่สำคัญคือมีความปลอดภัยและสามารถรักษาสิวให้หายได้อย่างรวดเร็วทันใจ หมดกังวลเรื่องการแพ้จากการรักษาสิวด้วยยาแต้มสิวไปได้เลย

ว่านหางจระเข้

9. ลดรอยสิวด้วยน้ำแข็ง

เป็นขั้นตอน รักษาสิวและลดสิวที่ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำก้อนน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม จากนั้นนำมาวางบนสิว จะช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน และยังช่วยลดรอยสิวได้เป็นอย่างดี

น้ำแข็ง

10. เปลือกมังคุด

มังคุด เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องลดการอักเสบของผิวหนังได้ โดยในเปลือกมังคุดจะมีสารสำคัญที่เรียกว่า GM-1 ที่ช่วยระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และยังมีสาร Xanthone ช่วยต้านการอักเสบ รวมถึงสาร Tannin ที่ช่วยสมานแผลให้หายเร็วมากขึ้น

เปลือกมังคุด

สำหรับใครที่มี ปัญหาเรื่องสิว หากกำลังมองหาขั้นตอนการรักษาและลดรอยสิว ด้วยตนเอง ลองหันมาใช้วิธีธรรมชาติและปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดและป้องกันสิวตามที่กล่าวมาดู นอกจากจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดแล้ว ยังไม่ต้องกังวลใจเรื่องความปลอดภัยต่อผิวหน้า

Quick Tips & Tricks

” สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผิวของทุกคนมีความแตกต่างกันดังนั้นจึงต้องใช้การลองผิดลองถูกเพื่อกำจัดสิวและค้นหากิจวัตรที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคุณ การใช้วิธีทางธรรมชาติอาจไม่เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนและอาจเกิดผลข้างเคียง ดังนั้นหากคุณสงสัยว่ามีปัญหาทางการแพทย์โปรดปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองความปลอดภัยด้านงานวิจัยและการค้นคว้าโดยเฉพาะ “

ป้องกันสิวด้วยตัวเอง

นอกจากวิธีการรักษาสิว ด้วยวิธีธรรมชาติแล้ว ก่อนที่จะเกิดสิวคุณยังสามารถใช้วิธีการป้องกัน ก่อนที่จะเกิดสิวด้วยตัวเองได้อีกด้วย แต่จะมีอะไรบ้าง Aquaplus มีคำตอบให้

1.การล้างหน้าอย่างถูกต้อง

การล้างหน้าทุกวันสองครั้งด้วยสบู่ล้างหน้าที่เหมาะสมสำหรับประเภทผิวของคุณ เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันสิว อย่าล้างหน้าเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวแห้งและกระตุ้นการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การเลือกซื้อ โฟมล้างหน้า ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณก็เป็นสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาด

2.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และโฟมล้างหน้า

แน่นอนว่าการดูแลผิวด้วย ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ในยุคนี้ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้สิวเพิ่มขึ้น หรือ “non-comedogenic” จึงกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจุดหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าการเลือกผลิตภัณฑ์ต้องคำนึกถึงผลที่จะตามมา คือจะต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง และไม่เหมาะสมต่อผิวของคุณ

3..การรักษาความสะอาด

ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวหน้า ไม่เพียงแต่เฉพาะการป้องกันสิว อย่างไรก็ตาม การสัมผัสผิวหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือการใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ไม่สะอาด อาจจะสามารถสร้างการระคายเคืองต่อผิวหน้า และเป็นสาเหตุต่อมาของการเกิดสิวได้อีกด้วย

4.การรักษาสุขภาพร่างกาย

การรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี โดยเฉพาะการนอนหลับเพียงพอ, การออกกำลังกาย, และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และวิตามิน จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง ลดความเครียด และส่งผลดีต่อผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.การหลีกเลี่ยงแสงแดด

แสงแดดสามารถทำให้สิวยิ่งรุนแรงขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง และควรใช้ ครีมกันแดด ที่มีปัจจัยการป้องกันแดดสูง (SPF) สำหรับผิวหน้า

6.ใช้โทนเนอร์

โทนเนอร์ สามารถช่วยลดการสะสมของเชื้อและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดสิว ให้ใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หลังจากการล้างหน้า เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิว

7.หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางค์ หรือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารกระตุ้น เช่น สารเคมี, และสารสกัดบางชนิด ที่อาจกระตุ้นผิวหน้าให้เกิดสิว

สรุป วิธีรักษาสิว

จากทั้ง 6 ข้อที่เรานำเสนอ สามารถทำได้ด้วยการดูแลผิวของคุณเองอย่างถูกต้องและควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว ถ้าหากทำได้ครบทุกข้อบอกเลยว่าลดโอกาส “หน้าพัง” เพราะ “สิว” ไปได้มากแน่นอน เริ่มต้นหน้าใสวันนี้ ดีกว่าหน้าพังวันหน้า