ครีมกันแดด: คืออะไร มีอะไรต้องรู้บ้าง

ครีมกันแดด
Reading Time: 4 minutes

สารบัญ

ในยุคที่อากาศ และสภาพแวดล้อมเลวร้ายมากที่สุด โดยเฉพาะปี 2024 นอกจากจะต้องสูดดมมลพิษเหล่านี้เข้าไปภายในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะไม่ส่งผลต่อร่างกายรวดเร็วมากนัก แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เลยว่า ในระยะยาวสิ่งที่สะสมในร่างกายอาจจะต้องส่งผลต่อสุขภาพเราอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นเดียวกันกับร่างกาย “ผิว” เราเองก็จะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะอันตรายต่อผิวที่ถูกกระทำโดย “แสงแดด” หรือ “รังสี” ที่มาพร้อมความร้อน แม้ตาเราจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ก็ส่งผลต่อผิวเราโดยตรงอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นเช่นนี้ แล้วเราจะสามารถปกป้องผิวอันเป็นที่รักของเราได้อย่างไรได้บ้าง วันนี้ Aquaplus จะมีช่วยไขคำตอบกัน

 


ครีมกันแดด คืออะไร

หลายคนทราบเป็นอย่างดีว่า “ครีมกันแดด คืออะไร” แต่หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบดีว่ามัน คืออะไร และมีหน้าที่อย่างไร สามารถอธิบายได้ค่อนข้างกระชับว่า ครีมกันแดด เป็นสกินแคร์ดูแลผิวประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของสารกันแดดซึ่งมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวหน้าหรือผิวกายจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด อันเป็นสาเหตุหลักของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพเกิดเป็นปัญหาผิวพรรณ เช่น หน้าหมองคล้ำ ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้ามัน ปัญหาสิวอุดตัน  แต่ละประเภทจะมีกระบวนการทำงานในรูปแบบสะท้อนแสงออกไปหรือดูดซับแสงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แสงทะลุเข้ามาสัมผัสกับผิวเราได้โดยตรง  สามารถป้องกันรังสีในแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อผิวได้ทั้ง รังสียูวีเอ (UVA) , รังสียูวีบี (UVB) , รังสียูวีซี (UVC) ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ต่อให้เราอยู่ในที่ร่ม เราก็สามารถรับรังสียูวีได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดด มีหลายรูปแบบที่นิยมใช้กันให้เราเลือกซื้อ เช่น ครีม โลชั่น หรือสเปรย์ เป็นต้น และในลำดับถัดไปขอแนะนำความรู้เรื่อง ค่า SPF และ PA รู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร สำคัญอย่างไร

 


SPF และ PA คืออะไร

SPF และ PA เป็นคำย่อที่มักได้ยินบ่อยครั้งมากคำหนึ่ง โดยมากจะสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์กันแดด ซึ่งทั้งสองนี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันผิวของเราจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ ด้าน

 


SPF (Sun Protection Factor)

คือค่าประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสียูวีบี (UVB) ว่าครีมกันแดดเราสามารถปกป้องเราได้นานเท่าไร เช่น ปกติผิวหนังเราจะสามารถทนแดดได้เฉลี่ย 15 นาที ถ้าเกินไปกว่านี้ผิวหนังเราจะแดงหรือผิวไหม้ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยความแรงของแสงแดดด้วย ตัวอย่างเช่น SPF 30 หมายความว่า คุณสามารถอยู่ในแสงแดดได้นาน 30 เท่า โดยไม่เกิดอาการแดดเผาเมื่อเทียบกับไม่มีการป้องกันเลย

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ค่า SPF เป็นตัวบ่งบอกระยะเวลานานเท่าใดในการเผาผิวไหม้หนังเมื่อสัมผัสกับแสงแดด ยิ่งค่า SPF มาก ระยะของผิวหนังที่สามารถทนแสงแดดจะมีค่ามากเท่านั้น แล้วราคาก็จะแพงตามค่า SPF ที่สูงขึ้นด้วย

หากจะเทียบค่า SPF กับปริมาณการดูดซับรังสี UVB พบว่า

  • ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%
  • ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%
  • ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%
  • ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%
  • ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%
  • ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
  • ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
  • ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นได้ว่าแม้นจะมีค่าที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะมีขีดความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็เป็นปริมาณที่น้อยมากหากเทียบกับความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่าง ที่ เอสพี่เอฟ 20 จะมีความสามารถในการดูดซับ รังสี UVB ได้มากถึง 95% ซึ่งแตกต่างกับ เอสพี่เอฟ 50 จะมีความสามารถในการดูดซับ รังสี UVB ได้มากถึง 98% โดยมีความแตกต่างกันเพียง 3% เท่านั้นเอง และที่สำคัญเมื่อสารในครีมกันแดด ต้องพบเจอกับ เหงื่อ เจอกับน้ำ และแน่นอนว่าต้องเจอกับแสงแดด และมลภาวะอื่นๆ เจ้าสารกันแดด อาจจะมีการเสื่อมสภาพลง โดยบีบให้เราต้องทาซ้ำลงไป และนั้นเองเป็นความเสี่ยงที่เราอาจจะแพ้ ความเหนอะ ของครีมกันแดดที่มาจาก ครีมกันแดดที่มีค่าสูงปรี๊ด บางผลิตภัณฑ์ จัดเต็มใส่ SPF 100 มาให้เลย

 


PA (Protection Grade of UVA)

มาต่อกันเจ้า PA รู้หรือไม่ว่า PA ที่อยู่ใน ครีมกันแดดมันมาจากอะไร และหน้าที่สำคัญของมันมีอะไรบ้าง? หรือว่าคุณเป็นอีกคนที่พยายามจะซื้อผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดดตัว ครีมกันแดดหน้า โดยคำนึงถึงค่าสูงสุดของผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นๆ เพียงอย่างเดียว? เจ้า PA ถูกย่อมาจาก Protection grade of UVA ตรงตามตัวโดยไม่ต้องหาคำแปลที่ไหนเลย เพราะมันมีหน้าที่ปกป้องผิวของเราจาก รังสี UVA นั้นเอง โดยมีจุดเริ่มต้นการใช้ค่า PA มาจาก สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง หรือ JCIA ของแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2006 ดังนั้นไม่จำเป็นต้องแปลกใจไป หากคุณพบเห็นผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดดหน้า ครีมกันแดดตัว ยี่ห้อใด แบรนด์ใด ไม่มีค่า PA เสนออยู่ในผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศยุโรป หรือประเทศอื่นๆ ที่ไม่อิงการใช้ค่า PA แต่จะแจ้งเป็นสารที่ใช้ปกป้องอื่นแทนนั้นเอง โดยค่า PA จะถูกแบ่งเป็น

 

PA+  มีประสิทธิภาพในการช่วยปกป้อง ป้องกันรังสี UVA เริ่มต้น
PA++ มีประสิทธิภาพในการปกป้อง ป้องกันรังสี  UVA กลาง
PA+++ มีประสิทธิภาพในการปกป้อง ป้องกันรังสี UVA สูง
PA++++  มีประสิทธิภาพในการปกป้อง ป้องกันรังสี  UVA สูงสุด

 


ทำไมต้องทาครีมกันแดด

การที่เราต้องปกป้องผิวจากแสงแดดนั่นก็เพราะว่า ในแสงแดดไม่ได้มีเพียงแค่ความร้อนเท่านั้น แต่ยังมีรังสีที่เรามองไม่เห็นอีกด้วย ซึ่งรังสีที่อยู่ในแสงแดดมีชื่อว่า รังสียูวี หรือ Ultraviolet (UV) โดยรังสียูวีนี้หากกระทบแล้วเข้าสู่ผิวหนังโดยตรงจะทำให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และหากผิวต้องเจอกับรังสียูวีเป็นเวลานานๆ เป็นประจำก็อาจทำให้ผิวไหม้ เป็นฝ้า กระ และอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ทำให้เราจำเป็นต้องป้องกันผิวจากรังสียูวีโดยการทาโลชั่นกันแดดเคลือบไว้บนผิวของเรานั่นเอง และหากคุณยังไม่รู้ว่า UV คืออะไร เราจะพาไปเจาะลึกกันในลำดับถัดไป

 


ครีมกันแดดทาตัว

รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation)

ที่เรียกว่ารังสี UV เป็นหนึ่งในพลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์และมีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกของเรา รังสี UV ถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ UVA, UVB, และ UVC ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและผลกระทบที่แตกต่างกัน

 


รังสี UVA คืออะไร

            หลายคนไม่ทราบว่ารังสี UVA คืออะไร วันนี้เราจะมาเจาะลึกในเรื่องของรังสีที่มากับแสงแดดทั้ง 2 ชนิดนี้กัน โดยเจ้ารังสี UVA นั้นจะเป็นรังสีที่มากับแสงแดดโดยจะมีความยาวคลื่นระหว่าง 320 ถึง 400 nm โดยแสงแดดที่ถูกสาดส่องมายังโลกเรานั้นมีรังสี UVA มากถึง 95% โดยเจ้ารังสีชนิดนี้มีความสามารถในการทะลุกระจกเข้ามาได้ บางคนคิดว่าแม้นว่าเราจะอยู่ภายในอาคาร จะสามารถ กันแดด ไม่โดนแสงแดดโดยตรงแล้วจะสามารถหลบเลี่ยงเจ้า UVA ได้ ก็คิดผิดถนัดเลยเชียว โดยมันสามารถเข้าไปสู่ชั้นผิดหนังของเราในชั้นที่ลึกได้  โดยในชั้นดังกล่าวจะประกอบไปด้วย collagen และ Elastic ส่งผลให้โดยอาจจะทำให้ผิวของเราเกิดริ้วรอยได้ค่อนข้างง่าย ผิวมีการแก่ก่อนวัยอันควร รวมไปถึงการเกิดจุดด่างดำ ที่สำคัญยังอาจจะเป็นสาเหตุ และปัจจัยในการก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย เริ่มเห็นความสำคัญของ ครีมกันแดด กันแล้วใช่ไหม?

 


รังสี UVB คืออะไร

สำหรับรังสี UVB นั้น เช่นเดียวกับรังสี UVA โดยจะถูกส่งมาพร้อมแสงแดดที่ส่องมายังโลกของเรา แต่ต่างกันที่เจ้ารังสีชนิดนี้ จะมีเพียงแค่ 5% เท่านั้นโดยรังสีชนิดนี้จะมีความยาวคลื่น 290 ถึง 320 nm แม้นว่าคุณสมบัติในการทำร้ายผิวของรังสีชนิดนี้จะไม่สามารถลงลึกได้เท่ากับ UVA แต่มันก็เป็นตัววายร้ายไม่น้อย ถ้าหากไม่ทา กันแดด เพราะมันสามารถทำให้ผิวหนังของเราเกิดการไหม้ รวมไปถึงเป็นฝ้า เป็นกระ และยังรวมไปถึงรอยคล้ำอีกด้วย  แบบนี้ถ้าไม่มีครีมกันแดด ผิวดำ ผิวสี เอาง่ายเลยนะ

 


รังสี UVC คืออะไร

เป็นรังสีที่คนส่วนมากอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าใดนัก โดยเจ้า รังสี UVC จะมีความยาวของคลื่น 100 – 280 nm โดยมันจะเป็นรังสีที่มีพลังงานมากที่สุด มากกว่า UVA และ UVB เสียอีก แต่โชคดีของเราที่แทบไม่ต้องพบเจอกับมัน เพราะเจ้ารังสี UVC มักจะโดนชั้นโอโซนของโลกดูดซับไว้แทบทั้งหมดแล้ว

 


ครีมกันแดด มีกี่ประเภท

ไม่ว่าจะเป็นแบบ กันแดดหน้า หรือ กันแดดตัว อาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทการใช้งาน ตามเนื้อของ ครีมกันแดด ซึ่งเป็นรายละเอียดที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน หากใช้งานผิดประเภท ไม่ตรงความต้องการของผู้ใช้ อาจจะก่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแย่มากกว่าดีแน่นอน และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปลงเจาะลึกกับประเภทของเจ้า ครีมกันแดด หรือ Sunscreen ที่ถือเป็นไอเท็ม Must Have ของหนุ่มๆ สาวๆ ทุกคนในสมัยนี้ โดยหลักๆครีมกันแดดมักจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่

 


Chemical Sunscreen

เป็นสารกันแดดชนิดที่เป็นสารเคมี โดยตัวมันเองเป็นสารมีที่มีคุณสมบัติ ที่สามารถช่วยดูดซับพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ ได้เป็นอย่างดี โดยจะช่วยดูดซับก่อนที่แสงแดดจะเข้าไปทำร้ายผิวหนัง โดยสารในกลุ่มนี้มักจะมีหลากหลายชนิด และประสิทธิภาพของมันจะลดลงทุกครั้งที่มันสัมผัสกับแสงแดด แม้คุณภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดจะมีประสิทธิภาพมาก แต่ก็มีข้อเสียที่ลายคนอาจจะไม่ถูกใจมาก ก็คือ  ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย และยังก่อให้เกิดสิวได้ค่อนข้างง่าย แต่ก็อาจจะส่งผล ตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล หลายคนใช้ก็ไม่เกิดอาการแพ้แต่อย่างใด และอาจจะเกิดการเหนียวเหนอะได้ง่ายหากใช้ในปริมาณที่เยอะเกินไป

 


Physical Sunscreen

เป็นสารกันแดดในกลุ่มที่ 2 คุณสมบัติอาจจะแตกต่างจากกลุ่มแรก เพราะมันไม่ได้ทำหน้าที่ดูดซับ แต่ในทางตรงกันข้าม มันช่วยในการสะท้อนแสงแดดออกจากผิวหนัง เนื่องจากความพิเศษของคุณสมบัติพิเศษของตัวมันเอง ทำให้มันซึมเข้าสู่ผิวได้ไม่ดีนัก  ทำให้เกิดการแพ้ได้น้อยมาก แต่ข้อเสียที่หลายคนไม่ถูกอกถูกใจเลย ก็คือด้วยคุณสมบัติเนื้อของมันทำใก้เวลาทา อาจจะมีการขาวแบบวอกได้นั้นเอง

 

 


ข้อแตกต่างระหว่างครีมกันแดดแบบ Chemical หรือ Physical Sunscreen

อย่างที่อธิบายคุณสมบัติของสารกันแดดทั้งสองชนิดที่เป็นชนิดหลักของครีมกันแดด และยังมีอีกหลายข้อที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันอย่างชัดเจนของสารทั้งสองชนิด ไม่ว่าจะเป็น Chemical sunscreen มีเนื้อที่เป็นน้ำ เนื้อจึงมีความเบาบางมากกว่า และยังช่วยในการเกลี่ยให้ง่ายกว่า ที่สำคัญด้วยลักษณะจึงไม่ทำให้กน้าขาววอกจนเกินเหตุ  และด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้เองทำให้ตัวมันเองสามารถผสมสารบำรุงอื่นๆเข้าไปได้ง่าย ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีสารบำรุงอื่นๆควบคู่ไปด้วย และที่สำคัญ มีราคาที่ถูกกว่าแบบ Physical  แตก็มีข้อเสียหลักๆที่ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นเดียวกัน ด้วยความที่การดูดซับแสงแดดของแต่ละผลิตภัณฑ์จะสามารถกันแสงแดดได้เฉพาะช่วงคลื่นหนึ่ง และยังต้องรอประมาณ 20-30 นาที หลังจากทาลงไป ถึงจะสามารถออกแดดได้ ที่สำคัญต้องทาซ้ำบ่อยๆ ไม่เหมาะสมกับคนที่มีลักษณะผิวมัน เพราะสามารถอุดตันได้ค่อนข้างจะง่าย มีโอกาสในการเกิดการแพ้ได้ง่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ในขณะที่ ครีมกันแดด  แบบ Physical sunscreen จะมีขีดความสามารถในการปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้ทั้ง UVA และ Infrared  ที่สำคัญยังมีโอกาสในการแพ้น้อยกว่า ทาเสร็จแล้วยังสามารถที่จะออกแดดได้ทันที และที่สำคัญหากเราไม่ได้โดนเหงื่อ หรือโดนน้ำ ก็แทบที่จะไม่มีความจำเป็นในการทาซ้ำเลยทีเดียว ยังเหมาะกับผู้ใช้ที่มีลักษณะผิวแบบมัน เพราะอุดตันได้ยากกว่านั้นเอง  ฟังข้อดีไปเยอะแล้ว มาถึงข้อเสียหลักๆของ ครีม กันแดด ที่ ดี ที่สุด แบบ Physical sunscreen กันต่อเลย เนื่องจาก็ลักษณะ และคุณสมบัติของเนื้อ อาจจะทำให้เวลาทาเกิดการขาววอกได้ ค่อนข้างอ่อนไหวต่อน้ำ และเหงื่อเป็นอย่างมาก จะมีโอกาสหลุด และต้องทาซ้พตลอดทั้งวัน หากสัมผัสน้ำ หรือเหงื่อ

 


รีวิว ครีมกันแดด

ประเภทของครีมกันแดด แบ่งตามเนื้อ

มาต่อกันที่ประเภทที่ถูกแยกจากกันด้วยรูปแบบของครีมกันแดด เนื้อผลิตภัณฑ์ และวิธีการใช้งทายเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่มีให้เลือกมากที่สุดแบบหนึ่งเลยทีเดียว โดยแต่ละแบบก็จะมีความยากง่ายในการใช้ผลิตภัณฑ์แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงราคาค่าตัวของแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไปอีก ดังนั้นใครที่ไม่รู้จะเลือกใช้แบบไหน อย่ารีบไปซื้อ อ่านให้จบก่อน รับรองตอบคำถามที่ค้างคาในใจได้แน่นอน

 


กันแดด แบบ ครีม

ครีมกันแดด หรือ sunscreen ที่มีรูปแบบหรือเนื้อที่เป็นรูปแบบของครีม มักจะเหมาะกับคนที่มีผิวแบบแห้ง เพราะมักจะผสมสารบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเป็นพิเศษ แต่ส่วนมากมักจะไม่ใช่ในวันที่มีการแต่งหน้า เพราะสีจะเป็นสีขาว อาจจะทำให้ “หน้าวอก” ก็เป็นได้ เหมาะแก่การใช้ในชีวิตประจำวัน

 


กันแดดผสมรองพื้น

ครีมกันแดด เนื้อเจล เป็นที่นิยมในหมู่คนที่ไม่ชื่นชอบความ เหนียวเหนอะหนะ เพราะ ครีมกันแดด แบบเจลมักจะมีการซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็วเป็นพิเศษ มีส่วนช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้นอีกด้วย โดยเนื้อแบบเจล มักจะเหมาะกับผู้ใช้ที่มีลักษณะผิวแบบมัน เพราะส่วนมากจะไม่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเพิ่มขึ้นอีก

 


สเปรย์กันแดด

ถือว่าเป็นครีมกันแดด ที่เป็นที่นิยมมากสำหรับสาวๆนักกิจกรรม ที่มักจะไปทะเลบ่อยๆ หรือมีกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นกีฬา เดินช้อปปิ้งเป็นประจำ พูดง่ายๆก็คือเป็นผู้ที่ต้องเจอกับแดดเป็นเวลานานๆ ครีมกันแดดแบบสเปรย์ เป็นตัวเลือกที่ดีมาก นอกจากพกพาสะดวกสบายแล้ว ยังใช้งานได้สะดวกสบาย เพียงแค่ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

 


ครีมกันแดดแบบแท่ง

เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดที่สามารถพกพาได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมีขนาดผลิตภัณฑ์ที่เล็ก ไม่ใหญ่ สามารถพกพาใส่กระเป๋าถือสาวๆได้อย่างง่ายดาย และยังเหมาะสมกับการใช้ระหว่างวันมากที่สุด

 


การเลือกใช้ครีมกันแดด

เรามักจะมีความคิดว่าครีมกันแดด ไม่ว่าแบบไหนก็สามารถใช้ด้วยกันได้ อาจจะเป็นความคิดที่ค่อนข้างไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะแม้แต่ครีมกันแดดเอง ก็มักจะมีประเภทให้เลือกใช้ ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของผู้ใช้เองด้วย เพราะถ้าหากเป็นคนผิวมัน และยังเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด ที่เพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปอีก ก็อาจจะทำให้หน้ามีความมันเพิ่มมากขึ้นได้นั้นเอง และวันนี้เรามีคำตอบว่าสภาพผิวแบบไหน เหมาะกับครีมกันแดดแบบไหน

 


การเลือกครีมกันแดด สำหรับคนตามสภาพผิวหน้า

วิธีเลือก ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นสิว ให้เหมาะกับผิว อันดับแรก เราจะต้องตรวจสอบสภาพผิวของเราก่อน ว่าเราเป็นคนผิวแบบไหน ซึ่งสภาพผิวของคนเรานั้นมีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

 


1.การเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวธรรมดา

ผิวธรรมดา ผิวแบบนี้จะมีลักษณะที่ไม่แห้งจนเกินไป ไม่มันจนเกินไป วิธีสังเกตก็คือ ผิวของเราจะเรียบเนียน รูขุมขนเล็ก ไม่ค่อยมีปัญหาสิว เหมือนกับผิวเด็ก ควรเลือกใช้ ครีมกันแดด ที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อให้ผิวคงความแข็งแรงเอาไว้

 


2.การเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวแห้ง

ผิวแบบนี้จะเป็นผิวที่ละเอียด บอบบาง และก็อาจจะเกิดริ้วรอยได้ง่าย ถ้าใช้มือไปแตะ เราก็จะรู้สึกว่าผิวของเราจะแห้ง ๆ สาก ๆ ไม่น่าสัมผัสเอาเลย ผิวแบบนี้ควรจะใช้ ครีมกันแดด ที่มีความมัน หรือมอยส์เจอไรเซอร์สูง เพื่อให้ผิวแห้งเพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มน้ำขึ้น

 


3.การเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวผสม

ผิวแบบนี้ค่อนข้างจะดูแลยากสักหน่อย เพราะหน้าจะมันเฉพาะตรงหน้าผาก จมูก คาง แต่ว่าตรงแก้ม ผิวจะแห้ง ผิวผสมจะต้องดูแลทั้งสองจุดอย่างละเอียดอ่อน เพราะมีทั้งจุดที่ผิวแห้งและจุดที่ผิวมัน ซึ่งครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวผสมนั้น ควรจะเป็น กันแดด หน้า ที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ต้องไม่มีน้ำมันเยอะจนเกินไป

 


4.การเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวมัน

ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับคนที่มีสภาพผิวแบบมัน ควรที่จะเลือกครีมกันแดดที่มีลักษณะเป็นแบบ เนื้อบางเบา แต่ก็ต้องมีประสิทธิภาพที่สามารถกันแดดได้ดี เพราะบางผลิตภัณฑ์ยิ่งมีเนื้อที่บาง ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพในการปกป้องลงไป อาจจะเลือกใช้เป็นสเปรย์กันแดดบ หรือแบบเจล ที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากแดด และยังช่วยควบคุมความมันบนผิวได้ดียิ่งขึ้น

 


ครีมกันแดดผิวแพ้ง่าย

 

5.การเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวแพ้ง่าย

แม้จะมีผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแพ้สภาพแวดล้อม หรือแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ แต่ก็ยังต้องการการปกป้องผิวจากแสงแดดเช่นกันกับผิวแบบอื่นๆ อาจจะต้องการ ความปกป้องที่มากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นการเลือกครีมกันแดด สำหรับผิวแพ้ง่าย  จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะด้วยสภาพผิวที่แพ้ง่าย ใช้อะไรก็มักจะเกิดการแพ้ หลายคนอาจจะกลัวกับการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ  ตลอดทั้งวัน เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดการแพ้ในการใช้งานครีมกันแดดบ่อยๆก็เป็นได้ ดังนั้นการเลือกให้ตรงจุดประสงค์ ให้เหามะสมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด และครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายออกแบบมาเพื่อคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง ดังนั้นส่วนผสมทุกชนิดที่ใส่ใปในสูตรจะไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผิว ไม่ทำร้ายผิวให้ระคายเคือง เช่น สารพาราเบน สารลาโนลิน แอลกอฮอล์ น้ำหอม เป็นต้น เมื่อได้สูตรครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายออกมาแล้วนักวิจัยก็จะส่งผลิตภัณฑ์ไปทดสอบการแพ้ การระคายเคืองกับสถาบันต่างๆ เพื่อการันตีผลอีกครั้งว่าสูตรที่คิดค้นมานั้นปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบางแน่นอน และสิ่งที่ห้ามมองข้ามก่อนเลือก ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย

  • ปราศจากส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว สำหรับผิวแพ้ง่าย ต้องไม่มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวแพ้ง่ายเกิดการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน อ็อกซีเบนโซน เป็นต้น เพราะสารที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล้วนเป็น ส่วนผสมที่คนผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากจะทำให้ ผิวแพ้ง่าย เกิดการระคายเคือง แสบแดง มีผดผื่น ผื่นคัน และนำไปสู่ ปัญหาผิวหน้า รวมถึงปัญหาสิวได้อีกด้วย
  • มีส่วนผสมที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย นอกจากครีมกันแดดจะต้องมีคุณสมบัติที่ปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) และรังสีอินฟราเรด (IR) สำหรับผิวแพ้ง่าย ยังต้องมี ส่วนผสมที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย และช่วยฟื้นฟูผิวแพ้ง่ายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเซราไมด์ คาโมไมล์ และส่วนผสมที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน เป็นต้น ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยปลอบประโลม ผิวแพ้ง่าย ทำให้ผิวหน้าของคุณรู้สึกผ่อนคลายและไม่เกิดการระคายเคืองง่ายนั่นเอง
  • ครีมกันแดดแบบ Physical การเลือกใช้ครีมกันแดดแบบ Physical ถือเป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสำหรับคนที่มี ผิวแพ้ง่าย เพราะครีมกันแดดประเภท Physical ทำหน้าที่สะท้อนแสงกลับ และไม่สะสมความร้อนใต้ชั้นผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและปัญหาผิวหรือปัญหาสิวตามมาอีกด้วย นอกจากนี้ครีมกันแดดแบบ Physical ยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าครีมกันแดดแบบ Physical ได้ สำหรับผิวแพ้ง่าย ที่หลายคนเลือกใช้และไว้วางใจว่าจะไม่เกิดอาการแพ้นั่นเอง
  • มีสัญลักษณ์ Dermatologically Tested และ Hypoallergenic Tested สัญลักษณ์ทั้งสองอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าผ่านการทดสอบในกลุ่มคนที่มีผิวแพ้ง่ายมาแล้วหลายขั้นตอนจนมั่นใจ แถมยังได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าสกินแคร์นั้นอ่อนโยนกับผิวอีกด้วย ถ้าแบรนด์ไหนมีสัญลักษณ์แบบนี้ก็จะช่วยยืนยันว่าเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและเหมาะกับผู้ที่มี ผิวแพ้ง่าย เนื่องจากเปอร์เซ็นต์ในการใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเกิดอาการแพ้นั้นน้อยมากๆ ถือเป็น ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนของคนผิวแพ้ง่าย

 


หากใช้ครีมกันแดด เกิดมีสิวขึ้น หมายความว่าเราแพ้ใช่หรือไม่

การเกิดสิวไม่ใช่ลักษณะที่บอกว่าผิวหน้าของเราจะแพ้หรือระคายเคืองผลิตภัณฑ์นั้นๆ แต่ส่วนใหญ่ปัญหาสิวจะเกิดจากการอุดตัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำความสะอาดผิวไม่ดีพอ การดูแลผิวหน้าไม่ถูกวิธี และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว  ยกเว้นว่าสิวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นสิวอักเสบ ก็มีความเป็นไปได้ที่เราจะแพ้สารตัวใดตัวหนึ่งในผลิตภัณฑ์นั้นๆ  แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสิวอักเสบที่ขึ้นนั้นเกิดนั้นมีสาเหตุมาจากผลิตภัณฑ์นั้นจริงหรือไม่

 


ครีมกันแดดหน้า

เลือกครีมกันแดดหน้า อย่างไรให้เหมาะกับช่วงอายุ

สภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสมหรือผิวแพ้ง่ายมาตั้งแต่เกิด แต่เชื่อไหมว่าผิวของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ยิ่งคุณอายุมากขึ้นเท่าไหร่ปัญหาผิวของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น คุณจึงต้องหาตัวช่วยในการปกป้องผิวให้เหมาะสมกับช่วงอายุหรือช่วงวัยของคุณด้วย การเลือกใช้ครีมกันแดดที่ดีที่สุด เพื่อลดปัญหาผิวและปกป้องผิวหน้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ  ซึ่งการเลือกครีมกันแดด ให้ตอบโจทย์แต่ละสภาพผิวและความต้องการของผิวหน้าในแต่ละวัยนั้นจะต้องเลือกอย่างไร ครีมกันแดด ที่เหมาะสมกับคนแต่ละวัย จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า

 


1.ครีมกันแดดสำหรับเด็ก

สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปสามารถเลือกใช้ครีมกันแดดสูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวบอบบางของเด็กโดยเฉพาะและควรเป็นประเภทของครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวของเด็กโดยการสะท้อนรังสีและไม่สะสมความร้อน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและที่สำคัญต้องระบุชัดเจนว่าเป็นครีมกันแดดที่อ่อนโยนมาก ๆ สำหรับผิวเด็กโดยเฉพาะ ไม่ควรมีส่วนผสมของ PABA หรือ Para-Aminobenzoic Acid ซึ่งเป็นสารกันแดดที่สามารถป้องกัน UVB ได้ แต่ไม่เหมาะกับผิวเด็กที่มีลักษณะเป็นผิวแพ้ง่ายและระคายเคืองง่าย

 


2.ครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น

ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมาก ร่างกายจะมีการหลั่งฮอร์โมนเพศออกมามาก ซึ่งการหลั่งฮอร์โมนเพศมากกว่าปกติจะเข้าไปกระตุ้นต่อมไขมันใต้ผิวให้ผลิตน้ำมันออกเยอะ จึงเพิ่มโอกาสให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนทำให้วัยรุ่นเกิดปัญหาสิวได้ง่าย วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่เริ่มมีปัญหาผิวและปัญหาสิวตามมามากนั่นเอง ครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น จึงจะต้องมีคุณสมบัติที่ควบคุมความมัน ลดการอุดตันบนผิวที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวและที่สำคัญครีมกันแดดผิวมันเป็นสิวที่เหมาะกับวัยรุ่นควรจะมีส่วนผสมของสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ เบต้าแคโรทีน และวิตามินซีที่ช่วยในการปลอบประโลมผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวและช่วยให้ผิวหน้าของช่วงวัยรุ่นกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

 


3.ครีมกันแดดสำหรับวัยทำงาน

วัยทำงานเป็นช่วงวัยที่ต่อเนื่องกันระหว่างช่วงวัยรุ่นย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ซึ่งวัยนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป วัยทำงานจะเริ่มมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส ซึ่งเกิดจากแสงแดดและการเผชิญมลภาวะสะสม ส่งผลให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลง ผิวไม่สวยเปล่งปลั่งเหมือนอย่างเคย คนวัยนี้จึงต้องใช้ตัวช่วยในการดูแลผิวที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วยการเลือกใช้สกินแคร์ เช่น การใช้น้ำตบและครีมกันแดด เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า พร้อมปกป้องผิวและดูแลผิวหน้าของผิววัยทำงานให้หน้าขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ หมดห่วงเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำเพราะมีสกินแคร์ตัวเด็ดที่ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด

 


4.ครีมกันแดดสำหรับผู้ใหญ่

สำหรับวัยผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวจะเริ่มลดน้อยลง เซลล์ผิวเริ่มเสื่อมสภาพลงทำให้คนวัยนี้เริ่มมีริ้วรอยแห่งวัย มีผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับและเริ่มมีปัญหากวนใจเกี่ยวกับรอยตีนกา ร่องแก้มลึก ริ้วรอยบนใบหน้า จุดด่างดำ เป็นต้น คนวัยนี้จึงต้องใช้ตัวช่วยในการดูแลผิวที่เพิ่มขั้นตอนขึ้นไม่ว่าจะเป็นใช้ เอสเซ้นส์เข้มข้นดูแลผิวหน้า เซรั่มวิตามินซีลดริ้วรอยและที่สำคัญที่สุดก็คือต้องใช้ตัวช่วยในการปกป้องผิวด้วยการใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อไม่ให้แสงแดดและรังสียูวี รวมถึงมลภาวะต่างๆเข้ามาทำร้ายผิวได้

 

นอกจากการเลือกใช้ ครีมกันแดด ให้เหมาะกับช่วงวัยหรือช่วงอายุของคุณแล้ว อย่าลืมว่าการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ครีมกันแดดสามารถปกป้องและดูแลผิวของคุณได้อย่างตรงจุดให้คุณสามารถใช้ครีมกันแดดได้อย่างมั่นใจโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอาการแพ้หรือเกิดปัญหาผิวตามมาในภายหลัง

 


 

สรุป ครีมกันแดด คืออะไร

จากเรื่องที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ครีมกันแดด ที่เรานำเสนอไปทั้งหมด เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่สำคัญของครีมกันแดดเท่านั้น หากแต่ในความจริงแล้วยังมีอีกหลากหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้กล่าว แต่หลังจากที่อ่านบทความ ครีมกันแดด ของเราแล้ว สำหรับคนที่ไม่เคยปกป้องผิวอันแสนบอบบางของตัวเองจากแดดเลย หวังว่าเวลาเจอแดดหนักๆ จะหาครีมกันแดดดีๆ มาทา กันแดด ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดทาหน้า หรือ ครีมกันแดดทาตัว และการเลือกครีมกันแดดก็ควรจะเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับสภาพผิวของเรามากที่สุดอีกด้วย ทางที่ดีอาจจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ผิวหนังจะดีมากที่สุด สุดท้ายนี้ คำแนะนำของ AAD (American Academy of Dermatology Association) แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 หรือสูงกว่า

 


ครีมกันแดด: คืออะไร มีอะไรต้องรู้บ้าง

แดดแรงขนาดนี้ แสบผิวไปหมด! แถมผิวหน้าแลดูหมองคล้ำด้วยใช่ไหมล่ะคะ เรามีข้อมูลของครีมกันแดด รวมถึงความสำคัญของค่า SPF และ PA มาบอกต่อ!

ภัยร้ายจาก “แสงแดด” ที่คุณอาจมองข้าม ลืมมองภัยร้าย ภัยอันตราย!!

แสงแดดอันตรายกว่าที่คิด นอกจากจะทำให้หน้าหมองคล้ำ ดำแดด ยังทำก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ครีมกันแดดหน้าจึงเป็นทางเลือกช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

มาส์กหน้า: คืออะไร สำคัญมากแค่ไหน?

หลายต่อหลายท่านไม่ทราบมาก่อนว่า มาส์กหน้า คืออะไร คืออะไร มีประโยชน์ต่อผิวมากน้อยแค่ไหน ทำให้พลาดการดูแลผิวอย่างล้ำลึกไปอย่างน่าเสียดาย

การใช้โทนเนอร์: ที่ถูกต้อง ถ้าเกิดเราใช้ผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยนได้

โทนเนอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม สำหรับคนที่รักการดูแลผิวอย่างล้ำลึก แต่คนส่วนใหญ่กลับใช้งานไม่ถูกวิธี การใช้โทนเนอร์ ผิดๆ อาจะเปลี่ยนชีวิตผิวได้

โทนเนอร์: 8 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อ

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ โทนเนอร์ แล้วโทนเนอร์ คือ อะไร และจำเป็นที่ต้องใช้หรือไม่ เรามาหาคำตอบจากบทความนี้กัน

10 เรื่อง โฟมล้างหน้าที่คุณต้องรู้ ถ้าไม่รู้ระวังหน้าพัง

โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า เพื่อผิวที่สวยใสจนใครก็ต้องทัก วันนี้เรานำเกร็ดความรู้ โฟมล้างหน้า เด็ดๆมาฝาก เพื่อเติมความมั่นใจอีกขั้น

เซรั่มวิตซี: 5 ประโยชน์ ผิวขาวกระจ่างใสไม่ทันตั้งตัว

เซรั่มวิตซี เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าขาวกระจ่างใส แต่หลายคนยังไม่ทราบว่า คืออะไร วิตามินซีคืออะไร มีประโยชน์ต่อผิวของเราอย่างไร ตามมาดูกันเลย

เซรั่ม: คืออะไร? ทำใมสาวๆถึงขาดไม่ได้

เซรั่ม เป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่สาว ๆ หลายคนตามหา เป็นไอเท็มลับที่ไม่ลับ ที่ใครก็ไม่ควรพลาด แต่ว่าสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับ เซรั่ม จะมีใช่หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า