สารบัญ
กันแดด ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ สาว ๆ อย่าได้ละเลยการใช้เป็นอันขาด เพราะแสงแดดร้อนแรงและมลภาวะในอากาศ มลพิษฝุ่นควัน ในช่วงหน้าร้อนจะยิ่งสามารถเข้ามาทำร้ายผิวหน้าของคุณจนทำให้ผิวคล้ำเสียและหน้าหมองคล้ำได้ง่าย คุณจึงควรเลือกใช้ ครีมกันแดดหน้า ยอดฮิต ที่ใคร ๆ ก็ต่างแนะนำว่าใช้ดี เพื่อช่วยปกป้องผิวหน้าของคุณได้อย่างดีที่สุด
ครีมกันแดดหน้า ตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด
ครีมกันแดด คือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทาผิวที่ประกอบด้วยส่วนผสมของสารกันแดด ตัวสำคัญที่คอยช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสีอันตรายต่างๆในแสงแดด รวมไปถึงมลภาวะ ฝุ่นละออง PM 2.5 และมลพิษในอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด “ปัญหาผิว” ไม่ว่าจะเป็นหน้าหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอย เป็นต้น ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ ครีมกันแดดปกป้องผิวหน้า เป็นประจำทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวตามมานั่นเอง
ครีมกันแดด ช่วยปกป้องผิวได้อย่างไร?
รังสียูวีที่มากับแสงแดดและมลภาวะทางอากาศ ก่อให้เกิด “ปัญหาผิว” ตามมามากมาย เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดจะเข้าไปทำลายความชุ่มชื้นบนผิวของคุณทำให้ ผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย การดูแลผิวด้วยครีมกันแดดทาหน้า จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผิวของคุณได้รับการปกป้อง เหมือนเป็นการเคลือบผิวเอาไว้ไม่ให้แสงแดดและมลภาวะ เข้ามาทำร้ายผิวของคุณได้นั่นเอง
ครีมกันแดดมีให้เลือกหลายประเภท แถมยังมีเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลายมากมายไม่ว่าจะเป็นเนื้อน้ำ เนื้อเจล เนื้อครีม หรือแบบสเปรย์ เป็นต้น การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว แน่นอนว่าต้องตรวจสอบผิวของคุณก่อนเป็นอันดับแรกว่าคุณมีผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิวผสม ผิวธรรมดา หรือผิวแห้ง จากนั้นค่อยทำความรู้จักและศึกษา ประเภทของครีมกันแดด เพื่อช่วยให้การเลือกครีมกันแดดและการตัดสินใจซื้อครีมกันแดดของคุณง่ายขึ้น
ประเภทของครีมกันแดด
ครีมกันแดด มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Chemical Sunscreen (ครีมกันแดดแบบเคมี) และ Physical Sunscreen (ครีมกันแดดแบบกายภาพ) ซึ่งครีมกันแดดทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นนี้สามารถปกป้องผิว หน้าหมองคล้ำ ได้เช่นเดียวกันแต่อาจจะมีวิธีการปกป้องผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งการปกป้องผิวที่แตกต่างกันนี้ส่งผลต่อสภาพผิวแต่ละประเภทเช่นเดียวกัน เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าครีมกันแดดทั้งสองประเภทนี้มีคุณสมบัติอย่างไร และเหมาะกับคนผิวประเภทไหนบ้าง
- Chemical Sunscreen คือ ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวด้วยการดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตเอาไว้ ซึ่งครีมกันแดดประเภทนี้จะประกอบด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตเอาไว้ ทำให้รังสีไม่สามารถสัมผัสกับผิวของเราได้ แต่การดูดซับนี้ก็มีขีดจำกัด เมื่อตากแดดนาน ๆ มีการดูดซับรังสีไว้เต็มที่แล้ว รังสีก็สามารถทะลุมาสัมผัสผิวเราได้ จำเป็นต้องทากันแดดซ้ำทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวของเราได้อย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเสียของการใช้ครีมกันแดด Chemical Sunscreen คือ ถ้าหากว่าเราใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงจนเกินไป จะทำให้เกิดการสะสมของความร้อน ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองและเสื่อมสภาพได้ง่าย ครีมกันแดดประเภทนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เป็นสิวง่ายนั่นเอง
- Physical Sunscreen คือ ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวด้วยการสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตและกระจายรังสีออกไปได้เกือบทั้งหมด โดยส่วนประกอบหลัก ๆ ในครีมกันแดดประเภทนี้จะประกอบไปด้วย แร่ธาตุที่มีอนุภาคเล็กมาก ทำให้สามารถเกาะติดผิวได้อย่างดี ข้อดีของ ครีมกันแดด แบบ Physical Sunscreen ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือไม่สะสมความร้อนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้า จึงเรียกได้ว่าครีมกันแดดประเภทนี้ คือ ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย หรือเป็นสิวง่ายนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรดี
นอกจากการศึกษาประเภทของ ครีมกันแดด แล้ว อย่าลืมดูส่วนผสมหรือส่วนประกอบในครีมกันแดดด้วยว่าเหมาะกับผิวของคุณหรือไม่ รวมถึงสรรพคุณของครีมกันแดดตัวนั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนผิวแพ้ง่าย คุณก็ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ หรือถ้ามีส่วนผสมเหล่านี้ก็ควรจะมีปริมาณน้อยมาก ๆ จนไม่ส่งผลทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคืองนั่นเอง
ครีมกันแดดที่ดีควรจะมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดผิวอุดตันหรือเกิดสิว รวมถึงปัญหาผิวหน้าตามมาในภายหลัง จึงจะเรียกได้ว่าเป็นครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ จุดด่างดำ และปัญหาผิวต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวครีมกันแดดหน้า เผยผิวใส ไม่กลัวแพ้