ภัยร้ายจาก “แสงแดด” ที่คุณอาจมองข้าม ลืมมองภัยร้าย ภัยอันตราย!!

แสงแดด หรือ แสงอาทิตย์อันร้อนแรง มีอันตรายต่อผิวของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผิวหน้าที่มีความบอบบางมากกว่าผิวกาย เราจึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องผิวหน้าจาก “แสงแดด” เพราะแสงแดดเป็นตัวการที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดจุดด่างดำและเกิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาหน้ามันสิวอุดตัน ผิวไหม้แดด ดำแดด ผิวแพ้แดด เป็นต้น หลายคนจึงพยายามหาวิธีปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการหลบแดด กางร่มหรือ การใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสียูวีในแสงแดด ซึ่งถือเป็นตัวช่วยปกป้องให้ผิวหน้าไม่หมองคล้ำและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

แสงแดด ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

แสงอาทิตย์เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดแสงแดด แสงที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ ที่เราเรียกกันว่าแสงแดดนั้นไม่ได้มีแค่แสงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและรังสีต่าง ๆ ตามมาพร้อมกับแสงแดดด้วย โดยรังสีที่อยู่ในแสงแดดเหล่านี้สามารถแบ่งตามความยาวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ได้แก่  แสงอุลตราไวโอเลต  แสงที่ดวงตามองเห็นและรังสีอินฟราเรด เป็นต้น ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงแสงที่ทำร้ายผิวของเราโดยตรง นั่นก็คือแสงอุลตราไวโอเลตและรังสีอินฟราเรด 

 

 

แสงอุลตราไวโอเลต แบ่งออกเป็น UVA และ UVB

• รังสี UVA เป็นรังสีที่อันตรายต่อผิวของคุณมาก เพราะรังสี UVA สามารถทะลุผ่านกระจก แม้ว่าคุณจะอยู่ในอาคารก็ทำให้ผิวของคุณถูกแสงแดดและรังสี UVA ทำร้ายได้ง่าย ๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น รังสีตัวนี้ยังสามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกของคุณ ทำให้คอลลาเจนถูกทำร้าย ภูมิคุ้มกันผิวเสื่อมสภาพ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
• รังสี UVB เป็นรังสีที่อันตรายเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพราะรังสีนี้ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้ ไม่สามารถทำร้ายผิวเมื่ออยู่ในที่ร่มหรืออยู่ในอาคาร แต่เมื่อไหร่ที่ออกไปข้างนอกโดยที่ไม่ปกป้องผิวแล้วล่ะก็ แสงแดดและรังสี UVB  จะทำร้ายผิวของคุณ ทำให้ผิวหมองคล้ำดำแดด ผิวไหม้แดด ผิวแพ้แดด ได้อีกด้วย

รังสีอินฟราเรด อันตรายต่อผิว

นอกจากรังสีอัลตราไวโอเลตแล้ว ยังมีรังสีอินฟราเรดหรือที่เรียกแบบย่อว่า  รังสี IR นั้นก็น่ากลัวไม่แพ้กัน เพราะรังสี IR หรือรังสีอินฟราเรดคือรังสีความร้อน ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่แผ่มาจากดวงอาทิตย์ ถึงแม้ว่ารังสีอินฟราเรดจะเป็นรังสีที่มีพลังงานน้อย แต่กลับให้ความร้อนสูง โดยที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า 

แต่เมื่อไหร่ที่เราได้สัมผัส รังสีอินฟราเรดหรือรังสี IR โดยตรง เราจะสามารถรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่ออกมา ซึ่งรังสีตัวนี้จะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ สีผิวเสียความยืดหยุ่นและก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย โดยรังสีอินฟราเรดสามารถแบ่งออกเป็น 3 คลื่นความถี่ ได้แก่ รังสีอินฟราเรดคลื่นสั้น รังสีอินฟราเรดคลื่นกลางและรังสีอินฟราเรดคลื่นยาว ซึ่งรังสีอินฟราเรดคลื่นสั้น (NIR) นั้นสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกมากที่สุดใน 3 คลื่นความถี่

ไม่ว่าจะเป็นแสงอุลตราไวโอเลตหรือรังสีอินฟราเรด ก็ส่งผลเสียต่อผิวหน้าและผิวกายของคุณไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แสงแดดอันตรายต่อผิวแพ้ง่าย ทางที่ดีคุณควรเลือกครีมกันแดดหน้าและครีมกันแดดกายที่สามารถปกป้องผิวของคุณจากแสงอุลตราไวโอเลตและรังสีอินฟราเรด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาผิวตามมาทีหลังเพราะแสงแดดส่งผลเสียต่อผิวของคุณมากกว่าที่คุณคิด 

อ่านเพิ่มเติม : เลือกครีมกันแดดที่ใช่ แบบไหนเวิร์กที่สุด

 

อันตรายจากแสงแดดที่คุณอาจมองข้าม

• ผิวไหม้แดด อาการผิวหมองคล้ำไหม้แดด นั้นส่วนใหญ่เกิดจากการออกแดดหรือเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรงทำให้ถูก รังสี UVB ทำร้ายผิวจนเกิดอาการระคายเคืองผิว ผิวแสบแดง ผิวไหม้แดด  
• ผิวแพ้แดด เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด การแพ้แสงแดดสืบเนื่องมาจากการถูกแสงแดดทำร้ายซึ่งส่วนใหญ่อาการแพ้แดดมักจะถูกกระตุ้นจากรังสี UVA และ UVB โดยอาการแพ้แดดนี้จะมีอาการผิวแดง ผิวแสบคับ ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย  
• ผิวคล้ำเสียถาวร เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากอาการผิวไหม้แดดซ้ำ ๆ และไม่ได้รับการรักษาหรือเยียวยาอย่างถูกวิธี ทำให้เกิดโรคผิวหนังจากการถูกแสงแดดทำร้ายโดยตรงนั่นเอง 
• สิวผด เกิดขึ้นเมื่อผิวหน้าถูกแสงแดดและแสงยูวีบวกกับการใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมบางอย่าง ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและเกิดปัญหาสิวตามมา ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอุดตัน ผดผื่น ผื่นคัน เป็นต้น
• ริ้วรอยก่อนวัย แสงแดดทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย รวมถึงฝ้ากระ จุดด่างดำบนใบหน้า แถมยังทำให้ผิวแก่เร็วได้อีกด้วย
• มะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งผิวหนังส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลาย โดนแดดเผาไหม้ทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดเป็นความผิดปกติของเซลล์ผิว นำไปสู่การเกิดมะเร็วผิวหนังในที่สุด

แสงแดดเป็นภัยร้ายที่สามารถทำร้ายผิวของคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว ทำให้ผิวแห้งกร้าน เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย ฝ้ากระ และจุดด่างดำได้ง่าย หลายคนจึงหาตัวช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทา ครีมกันแดด และการสวมหมวกปีกกว้าง พกร่ม เป็นประจำนั่นเอง แต่แสงแดดไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมด แสงแดดก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิวของคุณเช่นเดียวกัน

 

 

ประโยชน์ของแสงแดด

การได้รับแสงแดดในปริมาณที่พอหมาะในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายของคุณได้รับวิตามินดีที่เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้แสงแดดยังช่วยให้สุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตของคุณดีขึ้นได้อีกด้วย เพราะแสงแดดในช่วงเช้า 06:00-08:00 น. จะช่วยให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด และยังช่วยให้ร่างกายของคุณสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่าลืม! ครีมกันแดดสำคัญที่สุด

ถึงแม้ว่าแสงแดดในช่วงเช้าจะดีต่อสุขภาพร่างกายและช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็อย่าละเลย การดูแลผิวด้วยครีมกันแดดหน้า เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวหน้าของคุณจากแสงแดดและรังสียูวีที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าหมองคล้ำ เป็นสิว ผิวไม้แดด ผิวแพ้แดด เป็นต้น 

นอกจากการดูแลผิวด้วย การใช้ครีมกันแดดหน้า แล้วก็อย่าลืมปกป้องผิวด้วยการใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกปีกกว้าง และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่เผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรง ถ้าคุณดูแลผิวและปกป้องผิวด้วยการปฏิบัติตัวอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการใช้ครีมกันแดดหน้า รับรองว่าคุณจะปลอดภัยจากแสงแดดและแสง UV ได้อย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม : Wongnai แนะนำ ครีมกันแดดหน้าที่ดีที่สุด สำหรับคนผิวมันเป็นสิว